หน้าแรก > สังคม

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดงานมหกรรมสุขภาพดี รวมพลังฟู้ดฟิตฟอร์ไฟน์ ชวนกินให้เป็น-ชวนออกให้ฟิต ร่วมพิชิต 15 ล้านแคล

วันที่ 30 ตุลาคม 2567 เวลา 11:45 น.


ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดงานมหกรรมสุขภาพดี รวมพลังฟู้ดฟิตฟอร์ไฟน์ ชวนกินให้เป็น-ชวนออกให้ฟิต ร่วมพิชิต 15 ล้านแคล ฉลองครบรอบ 15 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ผนึกกำลังสร้างสรรค์และร่วมกันผลักดันให้ประชาชนมีสุขภาวะดีอย่างยั่งยืนตามพระปณิธาน

เนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ซึ่งตรงกับวันที่ 29 ตุลาคม 2567 นี้ เพื่อน้อมสำนึกในพระกรุณาธิคุณและสานต่อการดำเนินงานในการดูแลส่งเสริมสุขภาพประชาชน ตามพระปณิธานอันแน่วแน่ของ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ผู้ทรงจัดตั้งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ขึ้นเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยโดยเฉพาะผู้ป่วยในท้องถิ่นทุรกันดารที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งให้ได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานด้วยวิทยาการแพทย์ขั้นสูงและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จึงได้จัดกิจกรรมมหกรรมสุขภาพดี ครบรอบ 15 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ภายใต้ชื่องาน CRA FOOD FIT for FINE FEST 15th Anniversary CHULABHORN Hospital รวมพลังฟู้ดฟิตฟอร์ไฟน์ ชวนกินให้เป็น-ชวนออกให้ฟิต-ยิ่งฟิตยิ่งได้บุญ เพื่อให้บริการวิชาการความรู้ โดยเน้นการดูแลเชิงป้องกันและส่งเสริมสุขภาพในด้านการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ถูกสุขภาวะควบคู่กับการส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพและลดปัจจัยเสี่ยงโรค NCDs หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เกิดจากการใช้ชีวิตอย่างไม่เหมาะสมทั้งในการบริโภคอาหาร การออกกำลังกาย ร่วมกับความเสื่อมของร่างกายตามอายุ ซึ่งทำให้เกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง ซึ่งโรคเหล่านี้อาจนำไปสู่โรคที่รุนแรงยิ่งขึ้น เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคไตเรื้อรัง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังจัดแคมเปญรณรงค์เพื่อผนึกกำลังสร้างสรรค์และร่วมกันผลักดันให้ประชาชนมีสุขภาวะดีอย่างยั่งยืนตามพระปณิธานกับกิจกรรมที่จะชาเล้นจ์รวมพลังคนไทย ชวนออกให้ฟิตร่วมพิชิต 15 ล้านแคล ฉลองครบรอบ 15 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้ร่วมกันออกกำลังกายเบิร์นสะสมแคลอรี่ผ่านแอปพลิเคชัน Calories Credit Challenge: CCC เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. - 29 พ.ย. 2567  โดยทุกแคลสะสมมีค่าแปลงเป็นเงินบริจาค เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขาดแคลนและจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ 

งานมหกรรมสุขภาพดี ครบรอบ 15 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จัดขึ้นในวันที่ 29-30 ตุลาคม 2567 ณ ชั้น 2 ฝั่งทิศเหนือ อาคารรัฐประศาสนศาสตร์ (อาคาร บี) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ฯ โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นประธานเปิดงานโดยได้กล่าวแถลงว่า “ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์มีวิสัยทัศน์ในการสร้างสุขภาวะที่ดีและเท่าเทียมเพื่อทุกชีวิต ด้วยวิทยาการขั้นสูง นวัตกรรมและความเป็นเลิศ โดยมีพันธกิจหลักทั้งในด้านการจัดการศึกษา การวิจัยสร้างนวัตกรรม การให้บริการวิชาการและวิชาชีพด้านสุขภาพ และการสืบสานพระปณิธานในการช่วยเหลือประชาชน โดยตระหนักถึงปัญหาด้านสุขภาพและการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นสำคัญ สำหรับมหกรรมสุขภาพดี CRA Food Fit for Fine ในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อให้บริการวิชาการและวิชาชีพด้านสุขภาพ โดยมุ่งเน้นการสร้างเสริมดูแลเชิงป้องกันเพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพและลดปัจจัยเสี่ยงโรค NCDs หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมประเทศอย่างมากเนื่องจากเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของคนไทยและก่อให้เกิดภาระโรคจากการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ทั้งนี้ มีข้อมูลบ่งชี้ว่าประชากรของประเทศไทยมีแนวโน้มการเสียชีวิตด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มมากขึ้น ประมาณ 400,000 รายต่อปี หรือวันละมากกว่า 1,000 ราย คิดเป็นร้อยละ 74 ของสาเหตุการเสียชีวิตทั้งหมดในประเทศไทย และพบว่าคนไทยเสียชีวิตจากโรค NCDs 4 โรคหลัก ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง และโรคเบาหวาน โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้น จึงมุ่งรณรงค์ส่งเสริมความรอบรู้เกี่ยวกับกระบวนการป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือโรค NCDs โดยนำทีมบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ มาร่วมให้ความรู้เพื่อส่งเสริมการปรับ เปลี่ยน พฤติกรรมการบริโภคอาหารให้ถูกสุขภาวะควบคู่กับการให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวสำหรับการเคลื่อนไหวร่างกายในแบบต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเล่นกีฬาและออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ให้ประชาชนได้รู้เท่าทันสุขภาพเพื่อมีสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การเลือกทานอย่างถูกสุขภาวะและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะส่งผลถึงการมีคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีขึ้นแล้ว ยังสามารถลดค่าใช้จ่ายทางสาธารณสุขของประเทศลงได้ 

ด้าน นายฐากูร พานิช รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวถึง การมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนใช้แพลตฟอร์ม Calories Credit Challenge: CCC โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชน รวมกว่า 50 หน่วยงาน ได้นำร่องใช้แอปพลิเคชัน Calories Credit Challenge มาใช้เป็นเครื่องมือในกิจกรรมกีฬาและการส่งเสริมการออกกำลังกายภายในราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อเป็นการกระตุ้น จูงใจด้วยการสะสมปริมาณแคลอรี่ที่ได้จากกิจกรรมต่าง ๆ และจัดเก็บเป็นข้อมูลกลางสำหรับติดตามประเมินผลในแต่ละโครงการเพื่อร่วมรณรงค์ส่งเสริมการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาของประชาชน เพื่อการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ตลอดจนเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนและสังคม โดยรองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้กล่าวถึงการขับเคลื่อนดำเนินงานของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์เนื่องในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 15 และการนำแพลตฟอร์ม Calories Credit Challenge มาจัดทำเป็นแคมเปญชาเล้นจ์คนไทยในการร่วมออกกำลังสะสมแคลอรี่พิชิต 15 ล้านแคล ฉลองครบรอบ 15 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยทุกแคลสะสมมีค่าแปลงเป็นเงินบริจาคจากองค์กรพันธมิตรที่ได้ร่วมสนับสนุนนำรายได้สมทบทุนมูลนิธิศรีสวางควัฒน ในพระอุปถัมภ์ ฯ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยและสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และกิจกรรมของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ต่อไป

ภายในงาน มีการจัดกิจกรรมเสวนาให้ความรู้สุขภาพ Food Fit for Fine on stage “ชวนกินอย่างใส่ใจ ห่างไกลโรค NCDs ชวนออกให้ฟิต พิชิตโรคหลอดเลือดหัวใจ” โดยนายแพทย์วิโรจน์ เมืองศิลปศาสตร์ แพทย์เฉพาะทางอายุรศาสตร์หัวใจและหลอดเลือด ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด, แพทย์หญิงสิรี วงศ์รักมิตร แพทย์เฉพาะทางโภชนศาสตร์คลินิก, นายแพทย์ศุภณัฐ วรวิชชวงษ์ แพทย์เฉพาะทางอายุรศาสตร์โรคไต ศูนย์โรคไต พร้อมด้วยการสร้างแรงบันดาลใจ “กล้าที่จะออก กล้าที่จะฝัน สุขภาพดีคุณก็มีได้” โดยมี นายแพทย์อี๊ด ลอประยูร ผู้อำนวยการโรงเรียนวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวและสุขภาพ คณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมด้วย วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันทีมชาติไทย เหรียญเงินโอลิมปิก 2024 และ รอน-ภัทรภณ โตอุ่น ดารานักแสดง ร่วมเสวนาแชร์แรงบันดาลใจที่ทำให้มีสุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพใจแฮปปี้ด้วยวิถีชีวิตสุขภาพดี Food Fit for Fine โดยมี เจิ้น วีระกฤษณ์ วัชรศรีวราห์ รับหน้าที่พิธีกร นอกจากนี้ มหกรรมสุขภาพดี ครบรอบ 15 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ยังได้ออกแบบกิจกรรมเพื่อให้บริการประชาชนในการรวมพลังฟู้ดฟิตฟอร์ไฟน์ ชวนกินให้เป็น-ชวนออกให้ฟิต-ยิ่งฟิตยิ่งได้บุญ โดยแบ่งเป็นโซนตรวจปรึกษาสุขภาพฟู้ด-ฟิต-ฟอร์ไฟน์ กับบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อาทิ ตรวจวัดองค์ประกอบร่างกายและปรึกษาการบริโภคอาหารที่ถูกสุขภาวะกับโภชนาการโดยทีมโภชนศาสตร์คลินิก และแนะนำการออกกำลังกายโดยทีมเวชศาสตร์การกีฬา ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจและให้คำปรึกษาสุขภาพหัวใจ โดยศูนย์หัวใจและหลอดเลือด และการทดสอบภาวะเปราะบางในผู้สูงอายุจากคลินิกฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ ปอด และหลอดเลือด โซนชวนออกให้ Fit พื้นที่กิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกายจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และภาคีเครือข่ายความร่วมมือเพื่อเปิดให้ประชาชนได้ร่วมคิกออฟออกกำลังกายเริ่มสะสมแคลอรี่ผ่านแอปพลิเคชัน Calories Credit Challenge อาทิ ปั่นจักรยาน, วิ่งบนลู่วิ่ง, กรรเชียงบก, กิจกรรมทดสอบปฏิกิริยาตอบสนอง เป็นต้น และโซน Food อิ่มอร่อยกับรสชาติแห่งความสุขกับเมนูอาหารจากร้านดังและร้านซุปตาร์กว่า 20 ร้าน โดยนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการออกร้านสมทบทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พร้อมทั้งร่วมช้อปได้บุญกับผลิตภัณฑ์เซรามิกจากสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และผลิตภัณฑ์ที่ระลึกการกุศลจากมูลนิธิจุฬาภรณ์ และมูลนิธิศรีสวางควัฒน ในพระอุปถัมภ์ ฯ สำหรับผู้เข้าร่วมงานที่ร่วมบริจาคตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป สมทบทุนมูลนิธิศรีสวางควัฒน ในพระอุปถัมภ์ ฯ (ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า) จะได้รับเสื้อยืดออกกำลังกายฟู้ดฟิตฟอร์ไฟน์ที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์

สำหรับโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จัดตั้งขึ้นจากพระปณิธานอันแน่วแน่ของ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยโดยเฉพาะผู้ป่วยในท้องถิ่นทุรกันดารที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งให้ได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและพัฒนายกระดับการรักษาโรคมะเร็งในประเทศไทยให้ทัดเทียมนานาประเทศ ต่อมาทรงมีพระดำริให้ขยายขอบข่ายการดูแลรักษาของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ด้วยพระกรุณาธิคุณโครงการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ขนาด 400 เตียง ส่วนต่อขยายเพิ่มเติมการให้บริการทางแพทย์จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ครอบคลุมทุกโรคให้กับประชาชนและทรงจัดตั้ง “ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์” ในปี พ.ศ.2559 เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนการสอนและการวิจัยขั้นสูงที่จะสร้างบัณฑิตและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความสำคัญและตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ พร้อมทั้งให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนโดยมีโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นส่วนงานภายใต้กำกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีภารกิจด้านการให้บริการทางการแพทย์และการรักษาพยาบาลด้วยมาตรฐานสากลแก่ประชาชน และเป็นสถานที่ฝึกเรียนรู้ทางคลินิกสำหรับนักศึกษาและบุคลากรทางการแพทย์ทุกสาขาวิชาของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ทั้งนี้ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ได้มุ่งพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการให้บริการสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 15 ของการดำเนินงานได้ตั้งเป้าขยายการเปิดให้บริการทางการแพทย์ในอาคารโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ขนาด 400 เตียง เพื่อให้ได้ใช้งานอย่างเต็มศักยภาพ ด้วยระบบบริการสุขภาพเฉพาะทางที่นำนวัตกรรมเครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัยและจำเป็นต่อการตรวจรักษาอย่างครบถ้วนเพื่อต่อยอดความเชี่ยวชาญเป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิอย่างสมบูรณ์ มุ่งรักษาโรคยากที่มีความซับซ้อนด้วยศูนย์การรักษาเฉพาะทางด้านต่าง ๆ อย่างครบวงจร พร้อมทั้งการเตรียมเปิดใช้เครื่องมือและบริการในส่วนของห้องผ่าตัดไฮบริด อาทิ นวัตกรรมเครื่องเอกซเรย์ตรวจวินิจฉัยคลื่นหัวใจชนิดระนาบเดี่ยว เครื่องเอกซเรย์หลอดเลือดชนิดสองระนาบ พร้อมด้วยเครื่องควบคุมแขนกลเพื่อช่วยในการผ่าตัดส่องกล้องซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะเพิ่มศักยภาพในการรักษาโรคเนื้องอกในสมองและระบบประสาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการผ่าตัดผ่านสายสวนร่วมกับการผ่าตัดแบบเปิดสำหรับช่วยผ่าตัดโรคระบบหัวใจและหลอดเลือดในสมองที่ซับซ้อน หรือการนำนวัตกรรมหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ‘ดาวินชี’ มาใช้ในการผ่าตัดมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งช่องท้อง เป็นต้น
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์มุ่งมั่นให้ความสำคัญต่อการพัฒนาบริการทางการแพทย์และนำเทคโนโลยีที่เป็นเลิศเข้ามารักษาผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานการรักษาพยาบาลให้ทัดเทียมสากล ตลอดจนสืบสานพระปณิธานในการช่วยเหลือประชาชนด้วยความเพียรและจิตเมตตา ซึ่งเป็นพันธกิจที่บุคลากรของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ทุกคนยึดถือเพื่อมุ่งหวังให้โรงพยาบาลจุฬาภรณ์เป็นที่พึ่งแก่ผู้ป่วยในทุกระดับชั้นให้สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทุกโรคด้วยวิทยาการแพทย์ขั้นสูงและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นหมุดหมายที่พึ่งทางสุขภาพของกรุงเทพมหานครและของสังคมไทยต่อไป

 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม