หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2567

วันที่ 27 ตุลาคม 2567 เวลา 05:44 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2567

>> จับ 3 หนุ่ม ขนยาบ้าซิ่งแหกด่าน ยิงเปิดทางหนี สุดท้ายพุ่งชนต้นไม้ โดนรวบทั้งหมด

09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเลน จ.นครปฐม ตั้งด่านตรวจอยู่ที่บริเวณหน้าห้างโลตัส สาขาบางเลน ได้มีรถยนต์อีซูซุ มิวเอ็กซ์ หมายเลขทะเบียน กทม. ขับผ่านมา โดยท่าทางมีพิรุธ เมื่อเห็นด่านตรวจพยายามเลี้ยวหลบหนี เจ้าที่ตำรวจจึงได้เรียกให้หยุด ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวขับเร่งเครื่องหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง อ.กำแพงแสน และคนร้าย ได้ใช้อาวุธปืนยิงหลายนัด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไล่ล่า ไปจนถึงบริเวณสามแยกตลาดบัวทอง กระทั่งรถคันดังกล่าวเสียหลักปีนขึ้นไปบนขอบทางยางแตก จากนั้นคนร้ายได้เร่งเครื่องดับหลบหนีต่อไป จนถึง ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รถก็เกิดเสียหลักอีกครั้งพุ่งเข้าชนต้นไม้ข้างทางจนไปต่อไม่ได้

เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ คือ นายนิมาน และ นายพรชัย ซึ่งแอบอยู่พงหญ้าข้างทาง ส่วนอีกคนคือ นายจักราวุธ ซุกซ่อนตัวในร่องน้ำข้างทาง จากการตรวจสอบพบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม.พร้อมกระสุน และแม็กกาซีนบรรจุกระสุน 14 นัด ยาบ้า 2,000 เม็ด และยาไอซ์หนัก 6.3 กรัม นำตัวทั้ง 3 คน พร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางเลน ดำเนินคดี โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่ากำลังเดินทางกลับบ้านที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี แต่มาเจอด่านตรวจเสียก่อน และไม่ทราบว่าทั้งยาเสพติดอาวุธปืนนั้นเป็นของใคร

>> สั่งย้ายกรง ‘ลูกฮิปโปโปเตมัส’ ศรีสะเกษ รองรับคนแห่ชมทั้งวัน

10.40 น. กรณี ลูกฮิปโปโปเตมัส เกิดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 ซึ่งตอนนี้ทราบเพศแล้วว่า น้องเป็นเพศหญิง เป็นลูกตัวแรกของแม่เกศรินกับพ่อสมศรี ซึ่งตอนนี้จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีการกำหนดตั้งชื่อ เพื่อให้น้องฮิปโปได้มีชื่อ

ล่าสุด ที่แหล่งอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า ยังคงมีประชาชนในพื้นที่จังหวัดและใกล้เคียง เดินทางมาเยี่ยมชมและให้กำลังใจ ฮิปโปโปเตมัส ที่สวนสัตว์แห่งนี้เป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวต้องมาต่อแถวซื้อบัตรเข้าเที่ยวชมสวนสัตว์แห่งนี้อย่างคับคั่ง โดยการกำหนดราคาจำหน่ายบัตร อยู่ในราคา เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 35 บาท และเด็กสูงไม่ถึง 100 เซนติเมตร เข้าชมฟรี

ซึ่งขณะนี้กรงของน้องฮิปโป กับ แม่เกศริน มีการปรับเปลี่ยนขนาด และสถานที่ใหม่ จากเดิมอยู่มุมสุด มีพ่อสมศรี อยู่ข้างๆ แต่ตอนนี้ได้มีปรับใหม่ โดยย้ายและทำความสะอาดกรงของ พ่อสมศรี มาอยู่มุมข้าง และน้องฮิปโปกับแม่เกศริน มาอยู่ข้างในแทน มีการทำที่กั้นและระบบการระบายน้ำที่สะอาด โดยมีประชาชนเดินทางมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

>> DSI บุกค้นร้านค้าโกดังหลายจุดยึดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ชุดกีฬาของสโมสรฟุตบอลต่างประเทศชื่อดัง กว่า 1 แสนชิ้น มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท

13.30 น. พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง นำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศน์กลาง ลงวันที่ 25 ตุลาคม พุทธศักราช 2567 จำนวน 7 หมาย เข้าทำการตรวจค้นสถานที่จำหน่ายสินค้า และโกดังเก็บสินค้าประเภทเสื้อผ้า ชุดกีฬา และสินค้าอื่นๆ ที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า จำนวน 7 แห่ง ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าย่านประตูน้ำ เขตราชเทวี อาคารพาณิชย์ในพื้นที่เขตบางคอแหลม เขตสาทร และเขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร ซึ่งสถานที่ดังกล่าวเป็นแหล่งจำหน่าย ลักลอบ เก็บซุกซ่อนสินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาขนาดใหญ่ และเป็นสถานที่กระจายสินค้าเพื่อขายส่งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยมีตัวแทนของผู้เสียหายเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

ผลการตรวจค้นครั้งนี้ พบสินค้าประเภทเสื้อผ้าละเมิดเครื่องหมายการค้าแบรนด์เนม หลายยี่ห้อ และชุดกีฬาที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าของสโมสรฟุตบอลชื่อดังต่างประเทศอีกจำนวนมาก ประมาณ 120,000 ชิ้น โดยมีมูลค่าความเสียหายหรือมูลค่าตามราคาท้องตลาดกว่า 60 ล้านบาท

>> จับแล้ว 2 คนร้าย ไล่ฆ่าหนุ่มใหญ่ตายกลางถนน

16.00 น. จากกรณี นายพัชรพล อายุ 45 ปี ถูกคนร้ายฟันได้รับบาดเจ็บสาหัส วิ่งออกมาขอความช่วยเหลือชาวบ้าน ก่อนเสียชีวิตกลางถนน เหตุเกิดบริเวณริมถนน ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 70 แยก 21 ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้คุมตัวผู้ก่อเหตุ 2 ราย มาสอบปากคำ โดยบังฟัต หนึ่งในผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่า ระหว่างที่ตนกำลังนั่งเล่นอยู่กับ นายอ๊อฟ ภายในบ้านกันอยู่ 2 คน จู่ๆ ผู้ตายก็ถือมีดบุกเข้ามาอาละวาดคนในบ้าน พยายามไล่ทำร้ายตนกับ นายอ๊อฟ จึงทำให้ นายอ๊อฟ โดนมีดฟันที่นิ้วมือข้างซ้ายจนเกือบขาด

ด้วยความตกใจ และโมโห ตนจึงคว้าเหล็กแป๊บและจอบวิ่งไล่ผู้ตายออกจากบ้าน เพราะกลัวจะไปทำอันตรายคนอื่น และด้วยความโมโหตนจึงวิ่งไปทำร้ายผู้ตายที่ริมถนนซ้ำอีก โดยมีเจตนาที่จะให้ผู้ตายวางมีดลง เมื่อวิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุผู้ตายยังไม่ยอมปล่อยมีดในมือ ตนจึงใช้จอบฟาดพร้อมกับหยิบเศษแท่นปูนขว้างใส่ ก่อนจะพากันเดินกลับบ้านไป และไปโรงพยาบาล ตอนนั้น ตนไม่ทราบว่าคู่กรณีเสียชีวิต จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยืนยันว่า ตนเป็นผู้ทำร้ายผู้ตายเพียงคนเดียว นายอ๊อฟ ไม่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่น ไว้ก่อน หลังจากนี้จะทำการสอบสวนอีกครั้ง

>> กรมป่าไม้ยึดพื้นที่คืนแจ้งจับ แม่น้องชมพู่ บุกรุกที่ป่าสงวน 5 ไร่ 2 งาน ปลูกทั้งหวาย-กล้วย-ทุเรียน แบบฉ่ำๆ

17.20 น. นายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เปิดเผยหลังมีพลเมืองดีร้องเรียนขอให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการตรวจสอบ เนื่องจากพบมีการเข้ายึดครอบครองทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ภายในพื้นที่ หมู่ 2 ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งภายหลังหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบแปลงที่ดิน เนื้อที่ 5 ไร่ 2 งาน อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงภูพาน พื้นที่ดังกล่าวมีการถือครองโดยบุคคลที่ 1

ปัจจุบันพบมี นางสาวิตรี หรือ แม่น้องชมพู่ เข้ามาทำประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 มีการปลูกต้นหวายหนามขาว, ต้นทุเรียนไม่ทราบชนิดพันธุ์, ต้นกล้วยน้ำว้า และต้นข้าวเหนียว โดยอ้างว่ามีแฟนคลับส่งมาให้ปลูก แต่เมื่อพิจารณาตามข้อกฎหมายแล้วพบว่า การกระทำของนางสาวิตรี ถือว่าเป็นการเข้ายึดถือครอบครองทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึก พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน นำไปแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.กกตูม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แต่นางสาวิตรี ยังไม่ถือว่ามีความผิด เพราะต้องรอให้ศาลตัดสิน โดยระหว่างนี้ นางสาวิตรี สามารถนำพยานหลักฐานมาโต้แย้งได้ แต่ในส่วนของกรมป่าไม้ จะต้องตรวจยึดพื้นที่คืนตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507

>> แอมโมเนียในโรงงานน้ำแข็ง ช่วยคนงาน 6 คนติดในโรงงาน พบท่อก๊าซแอมโนเนียรั่ว

18.00 น. ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี แจ้งเหตุมีก๊าซรั่วภายในโรงน้ำแข็งหลอด ริมถนนอดุลยเดช ในเขตเทศบาลเมืองอุดรธานี มีพนักงานร้านติดอยู่ภายใน 6 ราย หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังพร้อมด้วยหน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัย อุดรธานี รถดับเพลิงและรถเผชิญเหตุตรวจสอบ

เบื้องต้นได้กลิ่นก๊าซแอมโมเนีย ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ส่วนพนักงานทั้งหมด 6 ราย พลเมืองดีและเพื่อนร่วมงาน สามารถช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว ขณะที่แอมโมเนีย ส่งผลทำให้ประชาชนที่พักอาศัย และค้าขายบริเวณดังกล่าว ในรัศมีราว 100 เมตร ได้รับความเดือดร้อน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ที่เดินทางมาถึง ได้สวมใส่ชุดนิรภัยดับเพลิง พร้อมติดตั้งถังออกซิเจน เข้าไปสำรวจภายในโรงงาน แต่ก็ไม่สามารถหาต้นตอของกลิ่นก๊าซรั่วได้ กระทั่งช่างซ่อมบำรุงโรงน้ำแข็งเดินทางมาถึง จึงเข้าไปชี้เป้าจุดปิดวาล์วก๊าซแอมโมเนียได้สำเร็จ ก่อนทำการฉีดน้ำฝอยเหนืออาคาร ช่วยลดความเข้มข้นของก๊าซให้เร็วขึ้น ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งขณะนี้ได้ทำการปิดวาล์วก๊าซแล้ว ซึ่งจะต้องปิดไม่มีการเดินเครื่องอีก จนกว่าจะมีการซ่อมแซมและตรวจสอบ ท่อก๊าซแอมโมเนียที่ชำรุด

>> ผู้เสียชีวิตเพิ่มรวม 4 คน กรณีพลุระเบิด ที่กาฬสินธุ์

19.00 น. จากกรณีเหตุการณ์พลุระเบิด ที่บ้านเก่าน้อย หมู่ 3 ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ และบาดเจ็บหลายราย เมื่อคืนวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ศพ รวมเป็น 4 ศพ

ล่าสุด นายพุทธภูมิ นาชัยเริ่ม นายอำเภอกมลาไสย พร้อมด้วย นายพูนเพิ่ม พรไตรศักดิ์ ปลัดอำเภอ พร้อมผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์พลุยักษ์ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกมลาไสย 2 ราย โดยอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์

จากนั้นได้เข้าให้กำลังใจญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์พลุระเบิดทั้ง 4 ราย ประกอบด้วยนายสถิตย์ อายุ 75 ปี เจ้าของพลุ นายบุญช่วย อายุ 65 ปี นายเอกสิทธิ์ อายุ 35 ปี และ นายสายัณห์ อายุ 45 ปี พร้อมกำชับให้ผู้นำชุมชนช่วยกันอำนวยความสะดวกในเรื่องจัดการศพ และให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นอย่างเต็มที่ เบื้องต้นทราบว่าวันเกิดเหตุ นายสถิตย์ นำพุมาเตรียมจุด แต่ระหว่างก่อนจุดได้นำค้อนและตะปูมาตอกที่ปากกระบอกพลุ เพื่อเจาะทำชนวนแล้วเกิดประกายไฟขึ้น ทำให้พลุซึ่งมีขนาดความสูง 170 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว ระเบิดเสียงดังสนั่น จนมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย

>> สธ.เผยเหตุระเบิดในโรงงานเคมี "ปราจีนบุรี" เสียชีวิต 2 ราย เจ็บ 12 ราย เตรียมแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ดูแล

20.00 น. นพ.มนู ศุกลสกุล สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 6 กล่าวถึงเหตุการณ์ถังผสมสารเคมีระเบิดภายในโรงงานเคมีภัณฑ์ จ.ปราจีนบุรี ว่า โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้รับแจ้งเกิดเหตุ เมื่อเวลา 09.22 น.วันที่ 26 ต.ค.67 ที่บริษัทแห่งหนึ่งในโรงงานนิคมอุตสาหกรรมบ่อทอง ตำบลบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตสังกะสี ตะกั่ว ดีบุก มีคนงาน จำนวน 232 คน เป็นชาย 205 คน หญิง 27 คน สาเหตุเบื้องต้นทราบว่าเกิดการระเบิดในกระบวนการผสมสารเคมี ส่งผลให้คนงานที่ยืนอยู่บนฝาถัง ตกลงไปในหม้อผสมสารเคมีสำหรับหลอมเหล็กและอลูมิเนียม มีสารตะกั่วและกรดซัลฟูริก (1830) ซึ่งวิศวกรชาวจีนให้ข้อมูลว่าบ่อไม่มีป้ายระบุว่าเป็นบ่ออะไร

ขณะเกิดเหตุมีคนงานทำงานประมาณ 70 คน มีผู้ได้รับผลกระทบ 28 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย นำส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรีรวม 13 ราย อาการปานกลางสีเหลือง 2 ราย อาการเล็กน้อยสีเขียว 10 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย รวมมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ทั้งหมดเป็นแรงงานต่างชาติชาวเมียนมา

>> กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 10 เตือน พายุ "จ่ามี" เคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนาม ส่งผลประเทศไทยมีฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง ในบางแห่ง

22.00 น. พายุโซนร้อนกำลังแรง “จ่ามี” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 160 กิโลเมตร ทางทิศใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 27–28 ต.ค. 67 โดยพายุนี้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย แต่จะทำให้มีลมฝ่ายตะวันตก และลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าหาศูนย์กลางของพายุมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงเหนือและลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก กับมีลมแรงในช่วงวันดังกล่าว หลังจากนั้นพายุจะเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนตัวออกห่างจากชายฝั่งประเทศเวียดนามกลับไปทางทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง

ลมตะวันตกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ในช่วงวันที่ 26–29 ต.ค. 67 ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม