รถบรรทุกชนกันก่อนเสียหลักพลิกตะแคง กลางถนนกาญจนาภิเษก ปลายข้าวตกเกลื่อน เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์เส้นทางกว่า 3 ชั่วโมง ถึงจะเปิดการจราจรได้

เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 23 ต.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ หลังจากได้รับแจ้งมีรถบรรทุกชนกันและมีผู้บาดเจ็บ เหตุเกิดถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งขาเข้า กทม. มาจากบางบัวทอง มุ่งหน้าบางใหญ่ บริเวณทางลงสะพานข้ามคลองพระพิมล ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บคือ นายฉลวย อายุ 86 ปีคนขับรถบรรทุกยี่ห้อ ฮีโน่ ป้ายทะเบียน สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยเหลือนำออกมาจากตัวรถก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลบางบัวทอง ในส่วนสิ่งของที่บรรทุกคือ ปลายข้าวมาเต็มคัน เกิดพลิกตะแคงขวางถนนโดยข้าวจำนวนมากกระจายเกลื่อนถนน ใกล้กันบริเวณร่องกลางถนนพบรถบรรทุก 6 ล้อตู้ทึบ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน ชุมพร บรรทุกสินค้ามาเต็มคัน สภาพเสียหายบริเวณด้านหน้ารถมุมซ้ายและขวา นอกจากนี้ ยังมีราวเหล็กริมทางรวมถึงเสาไฟส่องสว่าง 2 ต้นหักโคนพังเสียหาย และเหตุการณ์นี้ยังมีรถพ่วง 32 ล้อที่บรรทุกแท่งคอนกรีต ตัวรถได้รับความเสียหายบริเวณด้านหน้ารถฝั่งซ้าย ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้ตัวแท่งคอนกรีตมีการขยับตัวอย่างเห็นได้ชัด

นายจรัสสิน อายุ 42 ปี คนขับรถบรรทุกสินค้ากล่าวว่า ตนเองขับออกมาจากคลังสินค้าในพื้นที่ อ.ลาดหลุดแก้ว จ.ปทุมธานี เพื่อมุ่งหน้าไป จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนเกิดเหตุขับอยู่ในช่องเลนขวา ส่วนเลนกลางจะเป็นรถพ่วง 32 ล้อที่บรรทุกแท่งคอนกรีตมา จู่ๆ รถบรรทุก 10 ล้อที่บรรทุกขัาวสารเกิดไปตัดหน้าชนเข้ากับรถบรรทุกพ่วง 32 ล้อ ทำให้รถพ่วงเสียหลักมากระแทกกับรถตนเป็นเหตุให้เสียหลักตกร่องกลางถนน

นายพร อายุ 64 ปี คนขับรถพ่วง 32 ล้อกล่าวว่าตนเองขับรถบรรทุกแท่งปูนมา โดยจะมีรถกระบะเปิดสัญญาณไฟไซเรนนำ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ รถบรรทุก 10 ล้อหักออกจากเลนซ้ายเปลี่ยนเลนมาในช่องทางกลางและพุ่งเข้ามาชนด้านหน้าและด้านข้างฝั่งซ้ายอย่างแรง ขณะเดียวกันกล้องหน้ารถของรถบรรทุกพ่วง 32 ล้อสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุได้ โดยพบว่ารถบรรทุก 10 ล้อเปลี่ยนเลนจากช่องทางซ้ายเพื่อหลบแนวก่อสร้างเข้ามาชนกับรถบรรทุกพ่วง 32 ล้อที่วิ่งอยู่ในช่องทางกลาง เป็นเหตุให้เกิดเฉี่ยวชนกันขึ้นทั้งหมด 3 ค้น

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบปากคำคนขับรถบรรทุกทั้ง 2 คัน รวมไปถึงเก็บหลักฐานซึ่งเป็นกล้องหน้ารถที่บันทึกไว้ได้ ซึ่งหลังจากนี้จะทำการสอบปากคำคนขับรถบรรทุก 10 ล้ออีกครั้งหลังอาการดีขึ้น ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่เร่งเคลียร์ข้าวสารที่หกหล่นบนถนนและรถในที่เกิดเหตุโดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงถึงจะเปิดการจราจรได้เป็นปกติในเวลา 00.30 น.