พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 3 คน มีบทบาทเป็นผู้ลำเลียงยาเสพติด และผู้สั่งการ พร้อมยึดเฮโรอีน 154 กิโลกรัม (440 แท่ง) ซุกซ่อนในช่องใต้เบาะนั่งรถตู้ โดยจับกุมได้ ที่ สถานีบริการน้ำมัน จ.ชัยนาท

สำหรับเครือข่ายนี้ ถือเป็นการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เดิมเจ้าหน้าที่ตรวจยึดไอซ์ 300 กก. ได้ในพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี สืบสวนขยายผลผู้รับยาเสพติดปลายทางในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทราบว่ายาเสพติดเตรียมลำเลียงออกไปยังปลายทางประเทศที่สาม กระทั่ง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. สืบสวนทราบว่า ขบวนการลำเลียงยาเสพติดนี้ จะใช้รถตู้นำเที่ยวซุกซ่อนยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือมุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง และชุดปฏิบัติการ ไปพบรถตู้เป้าหมายที่สถานีบริการน้ำมัน ในพื้นที่ จ.ชัยนาท จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหา 2 คน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลการสืบสวนกระทั่งสามารถจับกุมผู้สั่งการได้อีก 1 คนในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี

ทั้งนี้ มีการขยายผลไปตรวจค้นที่พักอาศัยและโกดัง รวม 3 แห่ง ผลการตรวจค้น ไม่พบยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย แต่ตรวจยึดทรัพย์สิน ได้แก่ เช่น รถยนต์ 10 คัน เงินสด ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ พระเครื่อง โฉนดที่ดิน รวมมูลค่าประมาณ 7.6 ล้านบาท

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่า เฮโรอีนดังกล่าวเตรียมลำเลียงไปส่งให้บุคคลในเครือข่าย เพื่อดำเนินการส่งต่อไปยังประเทศที่สาม

อย่างไรก็ตาม ขบวนการที่จับกุมในครั้งนี้ คาดเกี่ยวกับคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศไทย - ไต้หวัน ซึ่งเป็นเครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวไต้หวัน สอดคล้องกับข้อมูลการจับกุมเฮโรอีนคดีดังกล่าว ถือเป็นการสกัดกั้นยาเสพติดก่อนที่จะถูกลักลอบส่งไปยังประเทศที่สาม โดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน