หน้าแรก > ภูมิภาค

จับนักศึกษาสาว ปี 4 ลอบขนยาไอซ์ 354 กก. เจ้าตัวร่ำไห้อ้างพ่อเอามาฝากไว้

วันที่ 23 ตุลาคม 2567 เวลา 04:39 น.


จับนักศึกษาสาว ปี 4 ลอบขนยาไอซ์ 354 กก. เจ้าตัวร่ำไห้อ้างพ่อเอามาฝากไว้

วันที่ 22 ตุลาคม 2567 เวลา 11.30 น. ที่กองกำกับการตำรวจตะเวนชายแดนที่ 24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ จ.อุดรธานี พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผบก.ตชด.ภาค 2 พล.ต.สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี พ.ต.อ.คณิต กลิ่นศรีสุข รอง ผบก.ตชด.ภาค 2 พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และ พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย รอง ผกก.ตชด.24 พร้อมกำลังชุดจับกุม ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ ได้กลางเป็นยาไอซ์ 354 กก.

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สืบทราบว่าจะมีการส่งมอบยาเสพติดในพื้นที่ จ.อุดรธานี จึงนำกำลังไปดักซุ่มอยู่หน้าโรงแรงแห่งหนึ่ง ภายในซอยยูค่อน เทศบาลนครอุดรธานี กระทั่งเวลา 18.30 น. พบรถนั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อฮอนด้า ซิตตี้ สีขาว จอดอยู่หน้าโรงแรม และมีผู้หญิง 1 คน เดินลงมาที่รถ ทราบชื่อภายหลังว่า น.ส.บิว (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ชาว ต.แสงสว่าง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี จึงแสดงตัวขอตรวจค้นภายในห้องโดยสารและที่เก็บของหลังรถ เต็มไปด้วยกระสอบสีรุ้ง จำนวน 12 กระสอบ อัดแน่นเต็มคันรถ ในกระสอบพบถุงผลิตภัณฑ์ใบชาแห้ง มีโลโก้ภาษาจีน น้ำหนักถุงละ 1 กก. จำนวน 354 ถุง จากการตรวจสอบพบว่าเป็นยาไอซ์ทั้งหมด จึงควบคุมตัว น.ส.บิว (นามสมมุติ) พร้อมของกลางมาทำการสอบสวนเบื้องต้นสารภาพว่า พ่อชื่อวี สัญชาติลาว อายุประมาณ 50 ปี โทรมาติดต่อขอฝากของ เดี๋ยวจะมีคนมารับไปอีกทอดหนึ่ง ตนไม่รู้ว่าข้างในเป็นยาเสพติด เพียงแต่รับฝากจากพ่อเท่านั้น โดยมีการบันทึกภาพขณะเข้าจับกุมไว้เป็นหลักฐาน

พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผบก.ตชด.ภาค 2 เปิดเผยว่า มีสายรายงานมาโดยตลอดว่าจะมีการนำยาเสพติดล็อตใหญ่มาพักไว้ที่ จ.อุดรธานี ก่อนที่จะมีการกระจายเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน บริเวณภาคกลางของประเทศไทย มีการจับกุมได้อยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นล็อตที่ใหญ่มาก เป็นยาไอซ์จำนวน 354 กก. มูลค่ากว่า 354 ล้านบาท และหากหลุดเข้าไปในพื้นที่ชั้นใน อาจจะมีมูลค่ามากกว่านี้หลายเท่าตัว ถือเป็นการสกัดเส้นทางลำเลียงของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติ ตามนโยบายการปราบปรามของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ บูรณาการร่วมกันในการปฏิบัติการณ์ครั้งนี้

โดยจากการสอบสวน น.ส.บิว (นามสมมุติ)  เล่าทั้งน้ำตาว่า พ่อแม่ตนแยกทางกันตั้งแต่ยังเล็ก ตนโตมากับตาและยายที่ อ.หนองแสง แม่มีครอบครัวใหม่อยู่ต่างประเทศ พ่อจะติดต่อกันบ้าง 2 – 3 เดือนครั้ง แม่จะดูแลค่ากิน ค่าเรียน ส่วนพ่อจะส่งเงินมาให้ใช้บ้าง ส่งมาเป็นค่าเช่าหอบ้าง ไม่เคยรู้ว่าพ่อทำงานแบบนี้ ไม่รู้ว่าพ่อฝากส่งอะไรมา แต่ก็ยอมรับว่าเคยไปช่วยพ่อ ขับรถดูเส้นทางส่งสินค้าอะไรบางอย่างให้ พ่อไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร ทำมาแล้ว 2 ครั้ง อยู่ที่อุดรฯ ตนก็เช่าโรงแรมและเช่ารถขับอยู่แล้ว มาครั้งนี้พ่อก็บอกว่าจะแค่ฝากของ จะมีคนเอาของมาใส่รถ ตนรู้แค่นั้น แล้วพ่อก็บอกว่าให้ขึ้นไปนอนที่ห้อง ตนลงมาจากห้องก็มาถูกจับ  "เมื่อวานพ่อโทรหา แต่ไม่ได้รับสาย พอเกิดเรื่องแล้ว โทรกลับไปหาพ่อ พ่อก็ไม่รับสาย ตนรักพ่อมาก อยากให้พ่อรักหนูบ้าง พ่อทำไมทำกับหนูแบบนี้ หนูกำลังเรียนหนังสือ เป็นนักศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 4 หนูจะเรียนจบอยู่แล้ว แต่พ่อก็มาทำกับหนูแบบนี้ หนูไม่เคยได้รับความรักจากพ่อเลย ซ้ำยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ หนูขี้เกรงใจ กลัวพ่อดุด่า ก็ทำไปตามที่เขาบอก อยากให้พ่อออกมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป ตอนนี้หนูกลัวมาก ไม่รู้จะหันไปพึ่งใครได้บ้าง" เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสืบสวนหาผู้กระทำความผิดในขบวนการดังกล่าวทั้งหมด มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม