หน้าแรก > สังคม

“GISTDA” เผย ไทยพบจุดความร้อน 2,460 จุด พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์มากสุด 1,417 จุด

วันที่ 3 มีนาคม. 2566 เวลา 21:25 น.


GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 2 มีนาคม 2566 ไทยพบจุดความร้อน จำนวน 2,460 จุด ในขณะที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ขึ้นนำอีกครั้ง จำนวน 3,742 จุด สปป.ลาว 2,004 จุด กัมพูชา 1,171 จุด เวียดนาม 177 จุด และมาเลเซีย 1 จุด

สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1,417 จุด, พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 524 จุด, พื้นที่เกษตร 202 จุด, พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 164 จุด, พื้นที่เขต สปก. 139 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 14 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด คือ กาญจนบุรี 305 จุด, ตาก 170 จุด ชัยภูมิ 149 จุด ตามลำดับ

ส่วนค่าฝุ่น PM2.5 เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 11:00 น. พบว่าในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ อาทิ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ตาก น่าน พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ อยู่ระดับสีแดงที่สูงกว่า 100 ไมโครกรัม ซึ่งมีผลต่อสุขภาพแล้ว ในขณะที่ทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร อยู่ระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม ก่อนออกจากบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่อาจจะตามมา

สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่สามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม