จากกรณีมีบัญชี FB ท่านหนึ่ง โพสต์เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 67 เวลาประมาณ 13.50 น. โพสต์ข้อความว่า “ประกาศ ลูกสาว ชื่อ “น้องอมยิ้ม” หายไป พร้อมๆกับมีข้อความแชทจากบุคคลปริศนา ตอนนี้น้องหายไป 4 ชั่วโมงแล้ว ติดต่อน้องไม่ได้เลย (ตอนนี้แม่แจ้งความและให้ตำรวจช่วยตามหาน้องอยู่ค่ะ น้องหายไปจากโรงเรียน ย่านสุขุมวิทซอย 31 

สน.หล่อทำการ สืบสวนทราบว่า สุภาพสตรีที่โพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าว ได้พักอาศัยอยู่ที่คอนโด ย่านรัชดา ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ได้ร่วมกับฝ่ายสืบสวนนครบาล ได้ไปที่ห้องพัก โดยเจรจาผ่านประตูห้องพัก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง กว่าจะยอมเปิดประตูออกมาคุยและยินยอมให้เข้าไปตรวจสอบภายในห้อง จึงได้พบกับเด็กที่โพสต์ตามหา อยู่ภายในห้องนอนโดยไม่ได้มีอาการตกใจหรือหวาดกลัว หรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด หรือมีสิ่งผิดปกติภายในห้อง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ และสืบสวนนครบาล จึงได้เชิญตัวแม่ของเด็กมายัง สน. ทองหล่อ เพื่อทำการซักถาม

จากการสอบถามแม่ของเด็ก ถึงเรื่องการโพสต์ Facebook ดังกล่าวให้ถ้อยคำว่าตนถูกคุกคามทางโซเชียลมีเดียแอพพลิเคชั่น LINE ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2567 แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร ที่ปลอมไลน์มา อีกทั้งยังถูกปลอมไลน์เป็นตนเองเพื่อไปคุยกับชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นแฟนใหม่ และมีบุคคลไม่ทราบว่าใครปลอมเป็นชาวต่างชาติที่เป็นแฟนใหม่ของตน ทักหาตนมาระยะเวลากว่า 1 ปี โดยขู่ว่าจะลักพาตัวลูกสาวของตนตามภาพที่โพสต์ใน Facebook ตนจึง สร้างเรื่องโดยโพสต์ว่าลูกสาวของตนถูกลักพาตัวเพื่อให้ บุคคลที่สร้าง Account ปลอมมาข่มขู่ออกมาแสดงตัว 
- จากการสอบถามเรื่องการทำงานของแม่เด็ก ได้ทำธุรกิจ และขายของออนไลน์รายได้ 70,000 - 80,000 บาท โดยตนไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินใดๆ
- จากการสอบถามเรื่องยาเสพติดตนรับว่าเคยใช้สารเสพติดไม่ทราบว่าเป็นอะไร เมื่อปีที่แล้ว (2566) จำนวน 3 ครั้ง โดยการดมเป็นผงสีฟ้าเขียว ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ จึงได้ดำเนินการตรวจสอบสารเสพติดเบื้องต้น ไม่พบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย
- ส่วนประวัติการรักษาพยาบาลตนได้ผ่าตัดบริเวณช่องท้อง และจะทราบผลตรวจ ในวันที่ 19 ตุลาคม 2567 และตนไม่ได้มีโรคประจำตัวใดใดทั้งสิ้น 
- มีความเครียดเนื่องจากมีปัญหาครอบครัว (บิดาป่วยเป็นอัมพาตครึ่งซีก ไม่สามารถติดต่อได้) โดยเจ้าหน้าที่ พม. จะได้ดำเนินการตรวจสอบและให้การช่วยเหลือต่อไป

เจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ จึงได้ทำบันทึกข้อตกลงการเลี้ยงดูเด็ก และลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ไว้เป็นหลักฐาน

ด้าน พ.ต.อ.พันษา เผยว่าจากการพูดคุยกับแม่เด็กนั้นมีสภาวะทางสมอง แต่ไม่ได้ถึงขั้นรุนแรง อาจจะมีการลำดับความคิดที่ต่างจากคนอื่น ถึงอย่างไรก็จะต้องมีการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ โดยการทำงานหลังจากนี้จะมีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและมั่นคงของมนุษย์ เพราะถ้าหากจะให้ดำเนินคดีกับแม่เด็กก็คงจะต้องคำนึงว่าหลังจากนี้เด็กจะอยู่อย่างไร จึงอยากจะใช้วิธีการให้เจ้าหน้าที่พม.เข้าไปดูแลทั้งแม่และลูก

ส่วนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่นั้นจะต้องรอข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่พม. และรอผลการตรวจสอบประเมินสภาพจิตใจทั้งแม่และลูก หากพม.ประเมินแล้วว่าสามารถแจ้งความได้ก็จะแจ้งความในคดีแจ้งความเท็จ

ล่าสุด 18 ต.ค.67 จนท. พม. ประเมินตัวเด็กและแม่เด็กแล้ว ไม่ได้แยกตัวเด็กออกจากแม่ ปล่อยให้แม่กลับไปเลี้ยงดูบุตรตามปกติ แต่ได้บันทึกทำข้อตกลงเงื่อนไขต่างๆเกี่ยวกับการเลี้ยงดูบุตรบันทึกข้อตกลงการเลี้ยงดูน้องอมยิ้ม โดยแม่ยินยอมปฏิบัติตามกำหนดเงื่อนไขข้อตกลงการเลี้ยงดู
1. ผู้ปกครองต้องให้การเลี้ยงดูเด็กไม่น้อยกว่ามาตรฐานขั้นต่ำใน พรบ.คุ้มครองเด็กฯ
2. ผู้ปกครองต้องดูแลเรื่องความเป็นอยู่ของเด็กทั้งเรื่องปัจจัย 4 การส่งเสริมเรื่องพัฒนาการ การอบรมเลี้ยงดู การศึกษา และความปลอดภัย
3. ผู้ปกครองต้องให้เด็กเข้ารับการศึกษาไม่น้อยกว่าการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกำหนด ของกระทรวงศึกษาธิการ ต้องดูแลเรื่องการเรียนรู้ กิจกรรมของเด็ก และให้ความร่วมมือกับโรงเรียนอย่างเคร่งครัด
4. ไม่นำเข้าข้อมูลของเด็กลงโซเชียลอันทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือมีผลต่อสวัสดิภาพของเด็ก
5. ผู้ปกครองพึงตระหนักว่าหากพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานหรือพบว่าเด็กเกิดพฤติการณ์อันน่าเชื่อว่าได้รับการเลี้ยงดูไม่เหมาะสม ถูกทารุณกรรม หรืออยู่ในภาวะอันน่าจะเกิดความเสียหายใดๆ แก่ร่างกายหรือจิตใจ พนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรการที่เห็นสมควร หรือผู้ปกครองไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง พนักงานเจ้าหน้าที่อาจพิจารณาความจำเป็นในการให้การสงเคราะห์ หรือคุ้มครองสวัสดิภาพแก่เด็กต่อไป อีกทั้งข้อกำหนดข้างต้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยมติของที่ประชุมทีมสหวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็กเท่านั้น