สืบนครบาล รวบ "แนน ท่าเกวียน" หลอกขายเฟอร์นิเจอร์ไม้ผ่านเฟซบุ๊ก รับโอนเงินไปแล้วแต่ไม่ส่งสินค้า พบเคยถูกดำเนินคดีมาแล้วกว่า 12 คดี

สืบนครบาล โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , เจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว แนน ท่าเกวียน อายุ 31 ปี ตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานฉ้อโกง และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าปากซอยวัดท่าเกวียน ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.65 ผู้เสียหายได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน แจ้งว่าเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.65 ได้เข้าไปดูเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการขายเฟอร์นิเจอร์ ได้เพจหนึ่งชื่อว่า Thanya Nop ประกาศขายชุดรับแขกไม้มะค่า ผู้เสียหายเห็นว่าสวยดีจึงได้ทักแชทเข้าไปพูดคุยและสอบถามราคา โดยทางเพจดังกล่าวได้ส่งภาพชุดรับแขกมาให้ดู ผู้เสียหายได้สอบถามว่าอยู่จังหวัดเชียงรายส่งได้หรือไม่ ทางเพจจึงแจ้งว่า สามารถส่งให้ได้ จากนั้นได้ทำการตกลงซื้อขายกัน ให้สามีโอนเงินไปให้เข้าบัญชีธนาคารชื่อนางสาวธันยรัตน์ ครั้งแรกเป็นเงิน 7,000บาท เป็นค่าสั่งซื้อชุดรับแขกไม้มะค่า และครั้งที่สองเป็นเงิน 13,500 บาท เป็นค่าสั่งซื้อชุดรับแขกไม้สัก ตู้โชว์ โต๊ะรองทีวี แหย่งไม้สัก และครั้งที่ 3 โอนเข้าระบบพร้อมเพย์ชื่อนางสาวธันยรัตน์ เป็นเงิน 6,000 บาท ค่าสั่งซื้อตู้ไม้สัก โดยหลังจากที่ได้โอนเงินไปแล้วปรากฏว่าทาง เพจเฟซบุ๊กดังกล่าวไม่ได้จัดส่งสินค้าชุดไม้มะค่ามาให้ผู้เสียหายแต่อย่างใด และไม่สามารถติดต่อได้อีก ผู้เสียหายคิดว่าคงจะถูกหลอกอย่างแน่นอน จึงได้นำเอกสารหลักฐานมาพบพนักงานสอบสวนแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี

ในชั้นจับกุมนางสาวธันยรัตน์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเรียนจนระดับชั้น ม.6 จากมัธยมขื่อดังย่านนนทบุรี หลังจากเรียนจบก็ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ต่อมาช่วงประมาณปลายปี 64 ตนเองได้คบกับแฟน ซึ่งตอนนั้นทางครอบครัวของแฟน ประกอบอาชีพทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ขาย เช่น ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ ตนจึงได้หาช่องทางในการขายเฟอร์นิเจอร์ผ่านเฟผซบุ๊กส่วนตัว โดยช่วงแรกตนก็ยังรับออเดอร์ลูกค้า และส่งเฟอร์นิเจอร์ให้กับลูกค้าตามออเดอร์ที่สั่งตามปกติเช่นสุจริตชน โดยเฟอร์นิเจอร์ที่ลูกค้าสั่งมีมูลค่าตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น ต่อมาช่วงต้นปี 65 ตนและแฟน ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินจากการทำธุรกิจรับทำเฟอร์นิเจอร์ จนหมุนเงินในการทำธุรกิจไม่ทัน ตนจึงเริ่มไม่ส่งออเดอร์ตามที่ลูกค้าสั่ง จนลูกค้าบางรายติดต่อมาทางเฟซบุ๊กของตนเอง โดยตนเองก็เลือกที่จะไม่ตอบแชทลูกค้า จนกระทั่งช่วงกลางปี 65 ตนเองถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึง จับกุมในคดี ฉ้อโกง โดยลูกค้าได้ไปแจ้งความดำเนินคดีตน ที่ไม่สามารถส่งออเดอร์ลูกค้าได้ตามกำหนด ซึ่งตอนนั้นมูลค่าความเสียหายประมาณ 1 แสนบาท ต่อมาตนได้ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี จนพ้นโทษมาเมื่อประมาณเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อไม่นานมานี้ ทั้งนี้ตนพอจะทราบว่า ตนเองน่าจะมีหมายจับที่ต้องการตัวเพื่อดำเนินคดีอีก จึงย้ายสถานที่พัก แต่ก็มาถูกจับกุมในครั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติคดีในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบข้อมูลว่า นางสาวธันยรัตน์ มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในฐานข้อมูล ในลักษณะฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ จำนวน 12 คดีอีกด้วย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคารหรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาดเนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมอย่างมหาศาล ตลอดจนโทษกรณีการเปิดบัญชีม้า ณ ปัจจุบัน มีอัตราโทษหนัก คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (บัญชีม้า) นอกจากนี้ ผู้เป็นธุระจัดหา จ้างผู้อื่นมาเปิดบัญชีม้าก็มีโทษหนักเช่นเดียวกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (คนจัดหาบัญชีม้า) หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ รรท.ผบ.ตร.