สืบนครบาล รวบสองพนักงานแอบขโมยมอเตอร์ปั๊มน้ำห้างดัง อ้างทำไปเพราะหาเงินใช้และไปเที่ยวสงกรานต์ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. จับกุม นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี ตามหมายจับ ศาลอาญาพระโขนง ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” จับกุมที่ บริเวณอพาร์ทเม้นท์ หลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร และจับกุม นายจร (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ตามหมายจับ ศาลอาญาพระโขนง ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” จับกุมบริเวณหน้าบ้าน ม.3 ต.สำโรง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 17.00 น. ทางบริษัทฯ ได้ตรวจสอบพบว่ามอเตอร์ปั๊มน้ำจำนวน 2 เครื่องที่ติดตั้งไว้ที่ระบบงานชั้น B2 ได้หายไป จึงไปตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 18.31-19.00 น.ได้มีนายเอ (นามสมมุติ) และนายจร (นามสมมุติ) ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นพนักงานของห้าง แผนกช่างประปา ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างไม่ทราบหมายเลขทะเบียนมาจอดหน้าห้องระบบท่อน้ำดีของห้าง จากนั้นได้ช่วยกันลักเอามอเตอร์ปั๊มน้ำจำนวน 2 เครื่อง ราคาเครื่องละ 32,500 บาท รวม 65,000 บาท ไปขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่เตรียมมา จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวนำทรัพย์สินไปเก็บไว้ที่ห้องแผนกช่างประปา

ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 10.31-10.39 น. ผู้ต้องหาทั้งสองได้นำรถยนต์กระบะสีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาขนย้ายมอเตอร์ปั้มน้ำโดยใช้ผ้าใบคลุมไว้ แล้วขับหลบหนีไป ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมอบอำนาจให้ผู้แจ้งมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หลังจากถูกจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ทั้งสองเป็นช่างปะปา ภายในห้าง ได้ไปลักทรัพย์มอเตอร์(ปั๊มน้ำ)เนื่องจากทั้งสองรู้ว่าห้างจะปิดตัวลงในระยะเวลาไม่นาน ประกอบกับสิ่งของที่ลักมาไม่มีการใช้งานเป็นเวลานานจึงชะล่าใจว่าไม่มีกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้น และส่วนใหญ่ไม่มีใครมาตรวจ ได้วางแผนกันลักโดยการใช้รถ จยย.(ซาเล้ง) บรรทุกจากที่เกิดเหตุมาไว้ห้องช่างที่ทั้งสองทำงานและชำแหละแยกเหล็ก , ทองแดง และวัสดุอื่น ออกจากกันเพื่อการแยกขายจะได้ราคาดี วันรุ่งขึ้นนายเอ (นามสมมุติ) ได้นำรถกระบะของตนมาขนสิ่งของนั้นไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าเพียงคนเดียวย่านกรุงเทพกรีฑา ได้เงินจากการขายเกือบ 8,000 บาท จากนั้นได้แบ่งเงินให้นายจร (นามสมมุติ) เป็นเงิน 3,200 บาท โดยหักค่าน้ำมันรถตน 300 บาท สาเหตุที่ นายเอ (นามสมมุติ) ลักทรัพย์เพราะว่าจะหาเงินไปเที่ยวสงกรานต์ที่ต่างจังหวัดบ้านเกิด ส่วนนายจร (นามสมมุติ) ไม่มีเหตุผล สุดท้ายนี้ผู้ต้องหากล่าวดีใจที่ได้เจอสืบนครบาล จากนั้นได้นำตัวทั้งสองส่ง สน.ประเวศ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 

เครดิต สืบนครบาล