สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัย รถบัส หมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี ที่ประสบเหตุเฉี่ยวชนแบริเออร์เกาะกลางถนน ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้บนถนนวิภาวดีรังสิต ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เบื้องต้นพบว่า รถบัสคันดังกล่าวทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 3 โดยอุบัติเหตุครั้งนี้ ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบอุบัติเหตุในกรณีที่เสียชีวิต จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากการทำประกันภัย พ.ร.บ. โดยเฉลี่ยจ่ายจากวงเงินไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง และประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 3 ความคุ้มครองต่อความเสียหายต่อชีวิตร่างกายหรืออนามัยของบุคคลภายนอก โดยเฉลี่ยจ่ายวงเงินไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง ทั้งนี้ คปภ. ได้รับการประสานงานจากบริษัมประกันภัย ว่ามีความประสงค์ที่จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนเกินวงเงินความคุ้มครองเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นกรณีพิเศษ

นอกจากนี้ ทางโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี ได้ทำประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มสำหรับสถานศึกษาไว้ด้วย สำนักงาน คปภ. จังหวัดอุทัยธานี ได้ช่วยอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยและค่าสินไหมทดแทน โดยประสานกับบริษัทประกันภัยในเบื้องต้นแล้ว อีกทั้งอยู่ระหว่างบูรณาการร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทยและสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบว่าผู้ประสบภัยหรือผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้มีการทำประกันภัยเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้อีกหรือไม่ หากตรวจสอบพบว่ามีการทำประกันภัยก็จะได้รับสิทธิตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้ทุกประการ