หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบหนุ่มใหญ่อ้างเป็นนักบวชใจบุญ ตุ๋นเงินเหยื่ออ้างนำไปซื้อเสื้อผ้าบริจาคคนยากจน

วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 04:29 น.


รวบหนุ่มใหญ่อ้างเป็นนักบวชใจบุญ ตุ๋นเงินเหยื่ออ้างนำไปซื้อเสื้อผ้าบริจาคคนยากจน

กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) โดย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายปอ (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลแขวงนนทบุรี ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” , หมายจับศาลแขวงนนทบุรี ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” จับกุมได้ที่ บ้านแห่งหนึ่ง ถ.ดอนรุน ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2563 มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ภ.จว.นนทบุรี ให้ดำเนินคดีกับนายปอ (นามสมมุติ) และนางไอซ์ (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) คู่สามีภรรยา ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” โดยผู้ต้องหาทั้งสองสร้างเรื่องเท็จขึ้นเพื่อหลอกเอาเงินจากผู้เสียหายไป

โดยรายแรก ผู้ต้องหาอ้างกับผู้เสียหายว่าเนื่องจากญาติได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์รักษาตัว ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โดยผู้ต้องหาต้องนำธนบัตรไปพับนกเพื่อภาวนาให้หายจากอาการเจ็บป่วย และได้บอกอีกว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้นับถือศาสนาคริสต์และตนกำลังบวชอยู่ ใช้เงินได้วันละไม่เกิน 3,000 บาท จึงได้ให้ผู้เสียหายช่วยหาเงินให้กับผู้ต้องหาทั้งสองก่อน เมื่อสึกจากการบวชก็จะนำมาคืนให้ ซึ่งผู้เสียหายบอกว่า ตนไม่มีเงินมีเพียงรถยนต์ของบุตรสาว ผู้ต้องหาจึงแนะนำให้ผู้เสียหายเอารถยนต์ไปรีไฟแนนซ์แล้วนำเงิน มาให้ตนก่อนและผู้ต้องหาทั้งสองจะผ่อนชำระค่าเช่าซื้อด้วยตนเอง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ เมื่อได้เงินมาแล้ว ผู้เสียหายได้นำเงินจำนวน 130,000 บาท มาให้กับผู้ต้องหา
รายที่สอง ผู้ต้องหาอ้างกับผู้เสียหายว่าจะนำเสื้อผ้าไปแจกให้กับคนยากจน แต่เนื่องจากผู้ต้องหา นับถือศาสนาคริสต์และได้บวชในศาสนาคริสต์ โดยระหว่างบวชจะใช้เงินได้ไม่เกินวันละ 3,000 บาท หากผู้เสียหายมีเสื้อผ้าอยู่แล้วจะนำไปแจกให้กับคนยากจนก่อนหลังจากที่สึกแล้วจะนำเงินมาชำระค่าเสื้อผ้าให้ จากนั้นผู้เสียหายไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านมาให้ ซึ่งค่าเสื้อผ้ามูลค่า 5,000 บาท ต่อมาเดือนพฤษภาคม 2562 ผู้ต้องหาได้บอกกับผู้เสียหายอีกว่าจะนำเสื้อผ้าไปบริจาคที่ต่างจังหวัด โดยอ้างเหตุผลเดิมเหมือนเช่นครั้งก่อน ผู้เสียหายจึงได้ไปซื้อเสื้อผ้าที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวน 20,000 บาท เพื่อเอาไปให้ ผู้ต้องหานำไปบริจาค ต่อมาช่วงเดือนมิถุนายน 2562 ผู้ต้องหาออกอุบายบอกกับผู้เสียหายว่าลูกน้อง 2 คน ได้เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำถึงแก่ความตาย ผู้ต้องหาจึงนำเสื้อผ้าไปแจกให้กับผู้ที่มาร่วมงานศพ โดยอ้างหตุผล เดิมว่า กำลังบวชอยู่ไม่สามารถใช้เงินได้เกินวันบละ 3,000 บาท หลังจาที่สึกออกมาจะนำเงินมาชำระให้ ภายหลัง ผู้เสียหายหลงเชื่อยังนำผู้ต้องหาไปซื้อเสื้อผ้าที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และที่อื่นๆ อีก 13 ครั้ง รวมมูลค่าทั้งหมด 485,500 บาท

จากนั้นเมื่อเวลาล่วงเลยมาพอสมควรผู้เสียหายทั้ง 2 ราย จึงได้ติดต่อทวงถามเกี่ยวกับเงิน จำนวนดังกล่าวแต่ผู้ต้องหาทั้งสองก็ได้บ่ายเบี่ยงเรื่อยมาจนไม่สามารถติตต่อได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกผู้ต้องหา หลอกลวง โดยทราบว่าผู้ต้องหาไม่ได้บวชในศาสนาคริสต์ ที่จะต้องใช้เงินได้ไม่เกินวันละ 3,000 บาท จริง และลูกน้องก็ไม่ได้ถึงแก่ความตาย ไม่ได้นำเอาเสื้อผ้าไปบริจาคตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างแต่อย่างใด จึงเข้า แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ภ.จว.นนทบุรี ต่อมา เจ้าหน้าที่ตรวจ กก.6 บก.ป. สืบทราบว่านายปอ (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาหลบหนีมาพักอาศัย อยู่กับมารดาในพื้นที่ จ.พัทลุง จึงเข้าตรวจสอบและจับกุมดังกล่าว

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม