วันที่ 29 กันยายน 2567 เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี พนักงานปั้มแก๊ส LPG แห่งหนึ่ง ริมถนนติวานนท์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังถูกคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน อายุประมาณ 18-20 ปี ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เข้ามาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เงินเสียบต้นผ้าป่าประมาณ 50 ก้าน ก่อนจะหลบหนีไปอย่างลอยนวล ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.45 น. ที่ผ่านมา โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ขณะที่คนร้ายทั้งสองรายลงมือได้อย่างชัดเจน

ภาพจากกล้องวงจรปิดเมื่อเวลา 04.31 น. พบว่าคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 18 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ สวมกางเกงขาสั้นสีกากี ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในปั้ม พร้อมกับหญิงสาว อีก 2 คนอายุประมาณ 15-18 ปี ก่อนจะจอดยืนคุยกันอยู่หน้าห้องน้ำพักใหญ่ โดยในระหว่างนั้นกลุ่มคนร้ายมีการจ้องมองไปที่ด้านหน้าปั้ม ในจุดที่ถังผ้าป่าตั้งอยู่หลังโต๊ะเก็บเงินของทางปั้ม ก่อนที่ทั้งหมดจะออกจากปั้มไป     
    
ถัดมาภาพจากกล้องวงจรปิดตัวเดิมบันทึกภาพชายวัยรุ่นคนเดิมขับขี่รถจักรยานยนต์กลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับชายวัยรุ่นอีกคนนั่งซ้อนท้ายมา ตอนเวลา 06.43 น. โดยขับขี่รถเข้ามาจอดที่หน้าห้องน้ำ ก่อนจะขยับรถมาจอดที่บริเวณหน้าจุดรับล้างรถ

จากนั้นชายวัยรุ่นหนึ่งในสองคนได้ตะโกนถามหาแก้วน้ำ เพื่อขอน้ำดื่ม จนกระทั่งได้จังหวะชายวัยรุ่นทั้ง 2 คน จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พุ่งตรงไปที่ถังผ้าป่า โดยชายคนที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้สองมือรวบเอาก้านผ้าป่าซึ่งมีเงินทำบุญติดอยู่ประมาณ 50 ก้าน ไปได้เกือบหมดต้น เหลือทิ้งไว้แต่ถังให้ดูต่างหน้าเนื่องจากติดเชือกที่รัดถังไว้ โดยที่พนักงานในปั้มแก็สไม่สามารถไล่จับตัวได้ทัน

หลังเกิดเหตุทางพนักงานของปั้มแก๊สได้เดินทางไปเข้าแจ้งความ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแต้งเหตุ เนื่องจากถังผ้าป่าดังกล่าวเป็นของวัดสลักเหนือ จึงต้องให้ทางวัดซึ่งเป็นผู้เสียหายมาเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอง

นางสาวเอ (นามสมมุติ) พนักงานปั้มแก็ส กล่าวว่า คนร้ายตั้งใจขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาดูลาดเลาก่อน โดยทำทีเป็นพาเอาเด็กผู้หญิงสองคนมาทิ้งไว้ที่เพื่อสังเกตุการณ์ ก่อนจะขับขี่ออกจากปั้มไปพร้อมกันทั้งหมด จากนั้นในรอบสองจึงได้ย้อนกลับมาพร้อมกับคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นอีกคนซ้อนท้ายกันมา โดยรอบแรกเข้ามาในปั้มตอนตี 4 พร้อมกับเด็กผู้หญิงเหมือนทำทีมายืนคุยกันและมองตรงไปที่เคาท์เตอร์ ตรงหัวจ่ายแก๊สซึ่งมีถังผ้าป่าตั้งอยู่ข้างหลังโต๊ะเคาท์เตอร์ แต่เพราะตอนเช้ามืดมีรถเข้าออกอยู่หลายคันคนร้ายจึงยังไม่กล้าก่อเหตุ จนกระทั่งในครั้งที่สอง จึงทำทีมาเข้าห้องน้ำ แล้วมาขอกินน้ำ แต่ทางพนักงานในปั้มก็ไม่ได้เอะใจอะไร คนร้ายทั้งสองรายจึงฉวยโอกาสที่พนักงานในปั้มเผลอและไม่ทันระวังตัว ขับขี่รถจักรยานยนต์พุ่งเข้ามารวบเอาก้านปักเงินทำบุญในถังผ้าป่าไปจนเกือบหมดต้น

นางสาวเอ ยังกล่าวอีกว่า ถังผ้าป่าที่ตั้งอยู่นี้เป็นถังผ้าป่าของวัดสลักเหนือ ในอำเภอปากเกร็ด ที่หลวงพ่อนำมาฝากกับทางปั้มตั้งไว้เพื่อหาเงินทำบุญเปลี่ยนสายไฟที่ชำรุดภายในวัด โดยทางปั้มได้ตั้งถังผ้าป่ามาตั้งแต่เดือน กรกฎาคมผ่านมาได้ 2-3 เดือนแล้วก็ไม่เคยเกิดเหตุมาก่อน ซึ่งก็ได้มีการเก็บเงินจากต้นผ้าป่าไปบ้างแล้ว เพราะทางหลวงพ่อเวลาเดินบิณฑบาตรผ่านมาก็จะเตือนว่าให้เก็บเงินทำบุญจากต้นผ้าป่าบ้าง เพราะเงินที่ต้นผ้าป่าเริ่มเยอะแล้ว ตนจึงเก็บเงินจากต้นผ้าป่าไปแล้ว 2 - 3 ครั้ง ได้เงินเกือบ 10,000 บาท เพื่อเตรียมรวบรวมถวายวัดทำบุญ ตนคาดว่าเงินจากต้นผ้าป่าที่คนร้ายรวบเอาไปเมื่อเช้านี้น่าจะมีอยู่ประมาณ 800-900 บาท เหตุการณ์นี้ตนมองว่าคนร้ายไม่มีความเกรงกลัวอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายหรือบาปกรรม และยังก่อเหตุแบบไม่ปิดบังใบหน้าในตอนเช้าอีก  ซึ่งหลังเกิดเหตุมีลูกค้าของปั้มให้ข้อมูลว่า เคยเห็นบุคคลลักษณะคล้ายคนร้ายอยู่ในซอยแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด ตนเสียดายเงินทำบุญที่ถูกคนร้ายเอาไปเพราะเป็นเงินที่ทุกคนตั้งใจมาทำบุญกับวัด แต่ก็มาถูกคนร้ายก่อเหตุโดยไม่เกรงกบัวบาปกรรม

ทางด้าน ผู้จัดการปั้มแก็สแห่งนี้ กล่าวว่า ในรอบที่สองที่คนร้ายทั้งสองคนเข้ามาในปั้ม คนร้ายได้ตะโกนถามเด็กปั้มขอแก้วน้ำเพื่อจะกินน้ำ แต่เมื่อเห็นว่าพนักงานในปั้มไม่สนใจ คนร้ายจึงฉวยโอกาสขับขี่รถพุ่งเข้ามาที่ถังผ้าป่าแล้วใช้มือรวบเอาเงินจากต้นผ้าป่าไปอย่างรวดเร็ว ตนยังอึ้งว่าคนร้ายเก่งมากที่สามารถรวบเงินจากต้นผ่าป่าในครั้งเดียวไปได้หมดต้นเหมือนมีความชำนาญ

ในเบื้องต้น นางสาวเอ พนักงานปั้ม ได้ติดต่อไปที่วัดสลักเหนือ เพื่อรอให้ทางวัดมอบหมายตัวแทนเดินทางไปเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายวัยรุ่นชายหญิงทั้ง 4 คน ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ต่อไป