หน้าแรก > อาชญากรรม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงตำรวจภาค 1 จับเครือข่ายยาเสพติด ยึดยาบ้า 10 ล้านเม็ด พร้อมอาวุธสงคราม

วันที่ 29 กันยายน 2567 เวลา 00:39


ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงตำรวจภาค 1 จับเครือข่ายยาเสพติด ยึดยาบ้า 10 ล้านเม็ด พร้อมอาวุธสงคราม

พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 ร่วมกับ นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. แถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ยึดยาบ้า 10,791,630 เม็ด และอาวุธสงคราม รวม 88 รายการ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ที่ตำรวจภูธรภาค 1 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567

พล.ต.ท.จิรสันต์เปิดเผยว่า การจับกลุ่มดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนสอบสวนบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดจะนำไปสู่การทำลายแหล่งพักยาเสพติดและตรวจยึดอาวุธสงครามได้ 2 คดีดังนี้

คดีแรก คือการสลายแหล่งพักยาเสพติดใน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ยึดยาบ้าได้ 10,790,000 เม็ด รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท โดยคดีนี้ตำรวจและทหารได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้าจำนวน 1,800,000 เม็ด เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่โกดังใน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จากการจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญหลายคดีทำให้ทราบว่า นายรัน (นามสมมุติ) ทำหน้าที่รับยาเสพติดจากกลุ่มผู้ลำเลียงทางภาคเหนือ นำมาเก็บไว้โดยจะมีนายวัน (นามสมมุติ) ทำหน้าที่ต้นทางคอยสังเกตเจ้าหน้าที่และนำยาเสพติดออกส่งให้ลูกค้า

โดยในช่วงเช้าวันที่ 23 กันยายน นายรัน (นามสมมุติ) ได้รับยาเสพติดจากกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดแล้วนำมาเก็บไว้บ้านเช่าในซอยราชพฤกษ์ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งเป็นจุดพักยาเสพติด ชุดจับกลุ่มจึงกระจายกำลังเฝ้าสังเกตเหตุการณ์ กระทั่งเวลาประมาณ 4 ทุ่มของวันเดียวกัน ทั้งสองคนได้เดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าวชุดจับกุมจึงแสดงตัวเข้าจับกลุ่มและตรวจค้น จนสามารถตรวจยึดยาเสพติดได้ดังกล่าว

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

คดีที่ 2 คือการจับผู้ค้ายาเสพติดพร้อมขยายผลยึด อาวุธสงคราม 88 รายการ โดยเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ตำรวจได้จับกุมนายพัน (นามสมมุติ) ที่หอพักแห่งหนึ่งใน อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พร้อมตรวจยึดยาบ้าได้ 1,630 เม็ด จากนั้นจึงขยายผลมาตรวจค้นบ้านพักของนายพัน (นามสมมุติ) ที่ จ.สระบุรี และสามารถตรวจยึดอาวุธสงครามได้อีกหลายรายการ ซึ่งนายพัน (นามสมมุติ) ซื้ออาวุธสงครามที่ตรวจยึดได้มาจาก นายชัน (นามสมมุติ) ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลจังหวัดสระบุรีออกหมายจับจนสามารถติดตามจับกุมนายชัน (นามสมมุติ) ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว สามารถตรวจยึดอาวุธสงครามได้เพิ่มเติมหลายรายการ เช่น ปืนยิงจรวด อาร์พีจี 2 1 กระบอก, อาวุธปืนเล็กยาว เอ.เค.47 (AK47) 14 กระบอก, แม็กกาซีนอาวุธปืนเล็กยาว เอ.เค.47 (AK47) จำนวน 73 อัน

พร้อมดำเนินคดีกับนายพัน (นามสมมุติ) ในความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ส่วนนายชัน (นามสมมุติ) ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ

ด้าน พล.ต.ท.อัคราเดชเปิดเผยว่า อาวุธสงครามที่สามารถตรวจยึดได้หลังจากนี้จะมีการสืบสวนขยายผล ซึ่งจากข้อมูลที่ผ่านมาพบว่าการค้าอาวุธสงครามมีการส่งต่อไปจำหน่ายหรือแลกเปลี่ยนให้กับชนกลุ่มต่างๆ ซึ่งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ส่วนนี้ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เนื่องจากยังอยู่ในแนวทางการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป 

เครดิต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม