หน้าแรก > อาชญากรรม

สืบนครบาล รวบสองสาวแสบตระเวนจำนำทองปลอม ใช้ข้อต่อทองแท้มาใส่ตบตาร้านทอง

วันที่ 27 กันยายน 2567 เวลา 23:20 น.


สืบนครบาล รวบสองสาวแสบตระเวนจำนำทองปลอม ใช้ข้อต่อทองแท้มาใส่ตบตาร้านทอง

เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. รับแจ้งกลุ่มมิจฉาชีพออกนำทองปลอมตระเวนจำนำร้านทองทั่วกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งเป็นภัยต่อสังคม มีผู้เดือดร้อนเป็นจำนวนมาก จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้น ผู้การจ๋อ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ได้สั่งการให้รีบจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวให้ได้เร็ว ป้องกันไม่ให้ไปก่อเหตุกับผู้อื่นอีก

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้จับกุมตัว น.ส.นิด (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 6 หมายจับ
(1.)หมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2567
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงทรัพย์ ”
(2.)หมายจับศาลแขวงชลบุรี ลงวันที่ 19 มกราคม 2567
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงทรัพย์ ”
(3.)หมายจับศาลอาญามีนบุรี ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2567
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงทรัพย์ ”
(4.)หมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2566
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกง ”
(5.)หมายจับศาลอาญามีนบุรี ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2567
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงทรัพย์ ”
(6.)หมายจับศาลแขวงราชบุรี ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2567
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ”
จับกุมคอนโด ถ.ลาดพร้าว 101 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร และจับกุมตัว นางยา (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรี ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ” จับกุมหน้าโรงงานน้ำแข็ง แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566 มีนางยา (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาในคดีนี้ กับพวก นำสร้อยคอทองคำ ลายสี่เสา น้ำหนัก 45.75 กรัม (หรือ 3 บาท) มาจำนำที่ร้านทองชื่อดัง สาขาเซ็ลทรัลแจ้งวัฒนะ ผู้กล่าวหาเป็นคนรับจำนำทองดังกล่าว ได้ทำการตรวจสอบทองดังกล่าวแล้ว โดยวิธีการชั่งน้ำหนัก และสองดูเปอร์เซ็นต์ทองได้ความบริสุทธิ์ของทอง 96.5 เปอร์เซ็นต์ และได้ตรวจสอบตราส่งของร้านทองยี่ห้อหนึ่ง จากนั้นผู้กล่าวหาได้นำหัวจรวดและตะขอไปฝนที่หินเพื่อตรวจสอบเปอร์เซ็นทอง และเช็คการเคลือบทอง และหยดน้ำกรด น้ำเกลือ เพื่อตรวจสอบเปอร์เซ็นทอง ก็เป็นปกติไม่ลอก ไม่เกิดปฏิกิรยาใดๆ ส่วนตัวสร้อยคอ ผู้กล่าวหาได้นำไปตะไบ และหยดด้วยน้ำกรดน้ำเกลือก็ไม่มีปฏิกิริยาเกิดขึ้น เชื่อได้ว่าเป็นทองแท้ ผู้กล่าวหาจึงได้ทำการรับจำนำไว้ในราคา 90,827 บาท ผู้กล่าวหาจึงได้ให้ผู้ต้องหาเซ็นเอกสาร ลงลายมือชื่อในตั๋วจำนำ และรับรองสำเนาบัตรประชาชนของผู้ต้องหา จากนั้นผู้กล่าวหา จึงได้ทำการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชั่น ชื่อบัญชี บริษัทผู้เสียหายในคดีนี้ ไปยังบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี นางยา (นามสมมุติ) เป็นเงินจำนวน 90,827 ให้ผู้ต้องหาในคดีนี้ หลังจากนั้นเมื่อผู้ต้องหาได้รับเงินแล้วได้เดินออกจากร้านไป

ต่อมาผู้กล่าวหาได้รับแจ้งจากสำนักงานใหญ่ว่า กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นกลุ่มมิจฉาชีพนำทองคำปลอมมาจำนำ ผู้กล่าวหาจึงได้ใช้ไฟเป่าทองที่รับจำนำดู ปรากฏว่า เมื่อใช้ไฟเป่าหัวจรวดหลุดออกจากตัวเส้นทอง เนื่องจากเป็นทองปลอม ใช้กาวเชื่อมติดไว้ หากเป็นทองจริงจะไม่หลุดออก เว้นแต่จะโดนความร้อนจนหลอมละลาย เมื่อทราบจึงได้รายงานหัวหน้า และรวบรวมพยานหลักฐาน มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ต้องทากับพวก จนคดีจะถึงที่สุด

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนรับสารภาพว่าได้นำทองปลอม (ตะขอทองแท้) ​มาตระเวนขายตามร้านทองทั่วกรุงเทพฯ และพื้นที่ต่างจังหวัดจริง  โดยรับมาจากนายเบิร์ดไม่ทราบชื่อสกุลจริง ให้ช่วยนำทองหนัก 2 บาท 3 บาท ไปขาย ไปจำนำให้ ให้ค่าจ้างจากน้ำหนักทอง บาทละ 5,000 บาท ซึ่งทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ อยู่ระหว่างขยายผลหาผู้บงการต่อไป จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่งพนักงานสอบสวน​ สภ.ปากเกร็ด ดำเนินคดีตามกฎหมาย​

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม