วันที่ 27 กันยายน 2567 เวลา 11:23 น.
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณวันที่ 19 กันยายน 2567 มีสายลับไม่ประสงค์ออกนาม มาร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพวกตนถูกหลอกเปิดบัญชี กล่าวคือเมื่อประมาณเดือน กรกฎาคม 2567 ได้มีนายต้า ติดต่อสายลับว่าต้องการเปิดบัญชีพร้อมบัตร ATM แลกกับค่าจ้างประมาณ 3,000 ถึง 4,000 บาท เมื่อสายลับตอบตกลง ก็พาไปเปิดบัญชีธนาคาร โดยให้เปิดบัญชีธนาคารพร้อมบัตร ATM และให้เปิดโมบายแบงกิ้ง เพื่อให้ได้รหัสเข้าโมบายแบงกิ้ง 6 หลัก จากนั้นก็จะพาสายลับไปพบกับบาสที่ รีสอร์ทแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สอด และให้นายบาสตรวจเอกสารบัญชีธนาคารบัตร ATM และรหัสแบงกิ้ง 6 หลัก จากนั้นนายบาสมีหน้าที่ให้สายลับทำการแสกนใบหน้า เมื่อแสกนเสร็จ นายบาสก็จะให้กลุ่มสายลับกลับไปก่อน
จากนั้นก็จะมี น.ส.ชิง แม่ของนายบาสเป็นผู้ควบคุมการจ่ายเงิน จ่ายเงินแก่นายบาสเพื่อนำไปให้นายต้าจำนวน 4,000 บาท เมื่อได้รับเงินนายต้าก็จะแบ่งให้สายลับหรือบุคคลที่ตนชักชวนให้มาเปิดบัญชีจำนวน 2,000 บาท อีก 2,000 บาท นายต้าก็จะเก็บไว้เอง ต่อมาประมาณวันที่ 19 ก.ย.67 กลุ่มสายลับได้ทราบว่ามีกลุ่มเพื่อนที่ถูกกลุ่มนายต้านายบาสชักชวนเปิดบัญชีเช่นเดียวกันเตือนว่า ให้ระวังจะนำบัญชีที่เปิดไว้ ไปใช้ในการกระทำความผิด จึงเกิดความกลัวรีบไปปิดบัญชี
ต่อมา ติดตามจับกุมบุคคลทั้ง 3 คือ นายบาส น.ส.ชิง และนายต้า ได้ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” จากการตรวจค้นภายในบ้านพักพบสมุดบัญชีธนาคารเป็นชื่อบุคคลอื่นจำนวน 19 เล่มและบัตร ATM จำนวน 6 ใบ
จากการสอบถามบุคคลทั้ง 3 ให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้เป็นคนที่ทำหน้าที่จัดหาบัญชีธนาคาร บัตร ATM และซิมการ์ดที่ได้ลงทะเบียนพร้อมใช้งานแล้วจริง โดยแบ่งหน้าที่กันทำ เนื่องจากเมื่อเดือนมกราคม 2567 ตนเองได้ค้นหาสมัครงานในเฟซบุ๊กพบโพสต์ข้อความงานสบายรายได้ดี ตนเองสนใจจึงได้ติดต่อไป และได้รับการตอบกลับจากแอดมินชื่อน้ำ ซึ่งแจ้งว่าตนเองอยู่ฝั่งเมียนม่า ทำงานร่วมกับสามีซึ่งเป็นคนจีนต้องการหาบัญชีธนาคาร บัตร ATM และซิมการ์ดที่ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้จำนวนมาก เพื่อใช้ในการรับเงินเข้าและออกจากพวกเว็บพนันและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะให้บัญชีละ 4,500 บาท โดยที่ถ้าหาได้จะให้คนเปิดบัญชี 3,000 บาท คนที่เป็นนายหน้าจะได้บัญชีละ 1,000 บาท และ อีก 500 บาทเป็นค่าเปิดบัญชีกับทางธนาคาร ตนเองสนใจจึงช่วยกันได้จัดหาวัยรุ่นในพื้นที่เพื่อเปิดบัญชีให้
โดยนายบาสยังยอมรับอีกว่าตนเองได้ทำมาแล้วประมาณ 1 ปี จัดหาคนเปิดบัญชีมาแล้วกว่า 400 - 500 บัญชี และเมื่อตนเองจัดหาบัญชีได้แต่ละครั้ง ทางเฟซบุ๊กหางานดังกล่าวจะนัดติดต่อให้ตนเองนำบัญชีธนาคาร บัตร ATM และซิมการ์ดที่ได้ลงทะเบียนซิมการ์ดพร้อมใช้งาน ไปที่ตลาดใกล้ชายแดน และจะมีคนจากประเทศเพื่อนบ้านข้ามฝั่งมารับเอาสิ่งของดังกล่าวและจ่ายเงินให้กับตนเอง จนมาวันนี้ตนเองได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวตนเองจึงรู้ว่าสิ่งที่ตนเองได้ทำมาตลอด 1 ปีนี้ เป็นการกระทำความผิดกฎหมาย