จ.นนทบุรี แจ้งเตือนประชาชนนอกคันกั้นน้ำ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์ หลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ 2,000 ลบม. เสี่ยงน้ำท่วม

วันที่ 26 กันยายน 67 นายอภิชัย อร่ามศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้อำนวยการจังหวัด ออกหนังสือในราชการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนนทบุรี ด่วนที่สุด ที่ นบ (กอปภ.จ.) 0021/ว 5242 ลงวันที่ 26 กันยายน 2567 ถึงหน่วยงานในจังหวัดนนทบุรี ทุกถาคส่วน

จากการที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนนทบุรี ได้ติดตามสภาวะอากาศ และพิจารณา ปัจจัยเสี่ยง ซึ่งมีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ตอนบนของประเทศในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่ลุ่มน้ำ เจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้น เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำ สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในขณะนี้ กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการรับน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้งฝั่งซ้าย และฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยาตามศักยภาพของคลอง พร้อมทยอย ปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันได ซึ่งส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน และจากการคาดการณ์ โดยกรมชลประทาน ใน 1-7 วันข้างหน้า ในวันที่ 28 กันยายน2567 ที่สถานีวัดน้ำ C2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 2,000-2,100 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งหากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 2,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จะทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากระดับปกติอีก 1.00-1.50เมตร

ณ ปัจจุบัน วันที่ 26 กันยายน2567 เขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำอยู่ที่ 1,600 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น ที่อาจจะส่งผลกระทบในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนนทบุรี จึงขอให้แจ้งประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองสาขาต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ ตามเอกสารแนบ เฝ้าระวังน้ำจากฝนที่ตกสะสมในพื้นที่ และปริมาณน้ำจากทางตอนบนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำจากสถานีวัดน้ำ C29 บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งข้อมูล ณ ปัจจุบัน วันที่ 26 กันยายน2567 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน ในอัตรา 1,286 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

ทั้งนี้ได้แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง ชุมชนพื้นที่ต่ำนอกคันกั้นน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ได้รับผลกระทบเมื่อระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณสูงขึ้น โดยแบ่งออกเป็นพื้นที่ 30 จุดเสี่ยงดังนี้ 1.ชุมชนบริเวณวัดค้างคาว ม.4 2.ชุมชนริมน้ำท่าอิฐ ม.8 3.ชุมชนบริเวณมัสยิดท่าอิฐ ม.10 4.ชุมชนคลองบางภูมิ ม.5 ฝั่ง ต.คลองพระอุดม 5.ชุมชนบริเวณวัดไทรม้าเหนือ 6.ชุมชนบริเวณวัดไทรม้าใต้ 7.ชุมชนวัดเฉลิมพระเกรียรติ 8.ชุมชนวัดอมฤต 9.ชุมชนบริเวณเกาะเกร็ด 10.ชุมชนบริเวณวัดแคนอก 11.ชุมชนวัดศาลารี 12.ชุมชนวัดค้างคาว ม.4 13.ชุมชนบริเวณวัดโพธิ์ทองบน 14.ชุมชนบริเวณวัดสลักเหนือ 15.ชุมชนวัดแจ้งศิริสัมพันธ์ 16.ชุมชนบริเวณ หลัง รพ.พระนั่งเกล้า 17.ชุมชนบริเวณท่าน้ำนนทบุรี 18.ชุมชนบริเวณหมู่บ้านเทพประทาน 19.ชุมชนบริเวณวัดกู้ 20.ชุมชนบริเวณวัดบ่อ 21.ชุมชนบริเวณวัดสนามเหนือ 22.ชุมชนวัดกลางเกร็ด 23ชุมชนวัดแสงสิริธรรม 24ชุมชนริมน้ำท่าอิฐ ม.4, ม.5, ม.6และ ม.7 25.ชุมชนวัดตำหนักใต้ 26.ชุมชนบริเวณวัดท่าบางสีทอง 27.ชุมชนบริเวณวัดชลอ 28.ชุมชนบริเวณวัดเกตุประยงค์เล็ก 29.ชุมชนบริเวณวัดพิกุลทอง 30.ชุมชนวัดใหญ่สว่างอารมณ์

เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 26 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี ตรวจสอบมาตรวัดน้ำพบว่าระดับน้ำขึ้นถึงระดับเฝ้าระวัง สูง 1.83 เมตร เหลือระดับน้ำอีกประมาณ 20 ซม. จะถึงจุดวิกฤต ซึ่งเทศบาลนครนนทบุรี ได้วางแนวกระสอบทรายตามริมเขื่อนและเฝ้าระวังตลอด 24 ชม พร้อมทั้งเตรียมเครืองสูบน้ำเร่งระบายน้ำที่ซึมเข้าตามแนวเขื่อนออกจากพื้นที่

ส่วนที่ท่าน้ำปากเกร็ด มาตรวัดน้ำขึ้นสูงถึงนะดับเฝ้าระวังเช่นกัน โดยมีระดับน้ำสูง  1.58 เมตร  เหลือระดับน้ำอีกประมาณ  37 ซม. จะถึงจุดวิกฤต ซึ่งแนวริมเขื่อนแม่น้ำเจ้าะระยา ยังสูงกว่าระดับน้ำประมาณ 50-70 ซม. น้ำจากแม่น้ำถึงจะล้นเขื่อนเข้าพื้นที่บ้านเรือนประชาชน ส่วนบ้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยานอกคันกั้นน้ำ ะบว่าระดับน้ำแตะพื้นบ้านแล้ว ซึ่งทางเทศบาลนครปากเกร็ดได้ประกาศให้ชาวบ้านริมน้ำยกของขึ้นที่สูงแล้ว

จากสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือและภาคอีสาน จังหวัดนนทบุรีเป็นจังหวัดที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำที่รองรับน้ำจากภาคเหนือ ได้มีการติดตามสถานการณ์น้ำจากภาคเหนือตลอด 24 ชม. พร้อมเฝ้าระวังการปล่อยน้ำและเตรียมรับน้ำเหนือที่กำลังทยอยปล่อยเพิ่มมากขึ้น จึงแจ้งเตือนประชาชนริมแม่น้ำให้ระวังระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น ป้องกันทรัพย์สินเสียหาย