25 กันยายน 2567  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบ เรื่องขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานเฝ้าระวัง สอบสวน ป้องกัน ควบคุมและรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ขอเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 3,849,297,118.32 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานเฝ้าระวังสอบสวน ป้องกัน ควบคุมและรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ค้างจ่าย ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ปฏิบัติงานระหว่างเดือนตุลาคม 2564 ถึงเดือนกันยายน 2565  ประกอบด้วย

1.ค่าตอบแทนบุคลากรนอกเหนือภารกิจปกติ สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้บริการฉีดวัคซีนโรคโควิค-19 นอกสถานพยาบาล ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 8,519,825 บาท 
2.ค่าตอบแทนเสี่ยงภัยสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข จำนวน 3,840,777,293.32 บาท โดยจำแนกรายกระทรวงดังนี้ 2.1 กระทรวงสาธารณสุข 3,247,294,014.93 บาท 2.2 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 171,404,768.45 บาท 2.3 กระทรวงกลาโหม 96,943,668.68 บาท 2.4 กระทรวงมหาดไทย 257,177,071.50 บาท 2.5 กระทรวงยุติธรรม 6,862,165 บาท 2.6 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 14,070,750 บาท 2.7 สภากาชาดไทย 43,316,737.50 บาท และ 2.8 โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ 3,708,117.26 บาท

"สำหรับการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเสี่ยงภัย หลังคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมาแล้ว ก็มีการกำหนดไทม์ไลน์เบิกจ่ายคือ 25-27 กันยายน 2567

1.สำนักงบประมาณ อนุมัติงวดเงินจัดสรร 
2.สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข แจ้งจัดสรรงบประมาณให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งเบิกจ่าย 27-30 กันยายน 2567 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง ดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณให้เสร็จสิ้น ซึ่ง สสจ.ต้องเบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์ให้ถูกต้อง โดยจ่ายให้ผู้ปฏิบัติงานที่มีสิทธิได้รับโดยตรง ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนักในช่วงโควิด จะได้รับค่าเสี่ยงภัยแล้ว หลังเฝ้ารอมานาน โดยตนขอยืนยันว่า ไม่ได้ลืม และติดตามเรื่องนี้ให้อย่างใกล้ชิด จนคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แล้ว"