ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นำเครื่องฉีดน้ำพระราชทาน เข้าถึงบ้านผู้ประสบภัยจังหวัดเชียงราย เพื่อการฟื้นฟูสภาพบ้านเรือนหลังเหตุอุทกภัย

วันที่ 22 กันยายน 2567 พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชน พร้อมนำเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง 100 เครื่อง ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปมอบให้แก่พื้นที่การฟื้นฟูต่างๆ ของ จังหวัดเชียงราย ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น โอกาสนี้ได้พบปะ เยี่ยมเยียน ให้กำลังใจแก่กำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจฟื้นฟูพื้นที่ ณ ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

โดยปัจจุบันหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดกำลังจาก สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนารวม 100 นาย และยุทโธปกรณ์ของหน่วย ประกอบด้วย รถขุดตัก 5 คัน รถตักบรรทุก 5 คัน รถสะพานเครื่องหนุนมั่น 1 คัน รถบรรทุก 6 ล้อ 5 คัน รถบรรทุก 10 ล้อ 3 คัน รถพ่วงชานต่ำ 1 คัน รถบรรทุกน้ำ 3 คัน ผนึกกำลังกับหน่วยทหารที่มาขึ้นสมทบการปฏิบัติ ได้แก่ กองพันทหารสารวัตร สำนักกองบัญชาการ กองบัญชาการกองทัพไทย และ กองพันทหารสื่อสาร กองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน 100 นาย โดยจัดแบ่งกำลังเป็น 5 ชุด ชุดละ 20 นาย เข้าทำความสะอาดฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย

ขณะเดียวกันโรงเรียนช่างฝีมือทหาร ได้จัดตั้งตำบลซ่อม ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 โดยจัดช่างยนต์ 50 นาย ช่างไฟฟ้า 50 นาย ซ่อมรถยนต์ยานพาหนะ และอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ให้แก่ประชาชน ซึ่งได้ร่วมวางแผนการปฏิบัติการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ เนื่องจากดินโคลน ที่ไหลเข้าสู่ตรอกซอย บ้านเรือนประชาชน ตลอดจนถนนสาธารณะมีปริมาณมาก และเส้นทางชำรุดจากน้ำท่วมที่ผ่านมา โดยกองบัญชาการกองทัพไทยได้รับแบ่งมอบหน้าที่ปรับพื้นที่เปิดทางจากดินโคลนถล่ม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อเสริมการป้องกันพื้นที่ตอนใน ด้วยรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ทางทหารและรถหน้าตักหลังขุด (JCB)

สิ่งที่สำคัญในการปฏิบัติงานขณะนี้ นั่นคือ ต้องทำงานแข่งกับเวลา รวมทั้งต้องป้องกันพื้นที่ให้แข็งแรงหากเกิดเหตุฝนตกซ้ำ สำหรับการปฏิบัติการฟื้นฟูพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วน เพื่อทำความสะอาดเส้นทางสัญจรและบ้านเรือนประชาชน โดยการเร่งนำดินโคลนออกจากพื้นที่ ถนนหนทาง บ้านเรือนประชาชน เปิดช่องทางการระบายน้ำก่อนจะเกิดการสะสมของตะกอนซึ่งอาจเป็นอุปสรรคที่ยากต่อการฟื้นฟู

ทั้งนี้ กองทัพไทยจะดำรงความช่วยเหลือในพื้นที่ต่อไปจนกว่าจะจบภารกิจ เพราะความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญเร่งด่วนที่ทหารต้องเข้าให้การช่วยเหลือ ด้วยกายใจและจิตวิญญาณ เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ววัน เพราะรอยยิ้มของประชาชนคือกำลังใจที่สำคัญที่สุดของเรา

เครดิต กองบัญชาการกองทัพไทย