เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 ที่กองร้อยชุดเฉพาะกิจทหารพราน 2103 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม กรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร.อ.ธนากร นาเหล็ก ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2103 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ หน่วยสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น เคมีภัณฑ์ ในพื้นที่จังหวัดนครพนม รวมถึง หน่วยรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) และเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง แถลงการณ์สกัดกั้นตรวจยึดยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนติดแม่น้ำโขง โดยช่วงนี้พบมีการทะลักนำเข้าในพื้นที่ชายแดนต่อเนื่อง บวกกับระดับน้ำโขงสูงปริ่มตลิ่ง ทำให้เทียบเรือง่าย ขบวนการค้ายาเสพติดจาก สปป.ลาว จึงฉวยโอกาสลักลอบมากขึ้น เนื่องจากสภาพแวดล้อมเอื้อต่อความสะดวกในการลักลอบขนส่ง อีกทั้งคิดว่าเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ถอนกำลังไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ทั้งนี้ ทางชุดเฉพาะกิจทหารพราน 2103 ได้มีการวางกำลังดักซุ่ม พบขบวนการค้ายาเสพติด ลักลอบนำเข้ามาทางเรือหางยาว เพื่อนำมาพักบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่ บ.หาดทรายเพ ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา จึงแสดงตัวเข้าตรวจยึดจับกุม สามารถตรวจยึดยาบ้า บรรจุในกระสอบปุ๋ย จำนวน 1 กระสอบ ตรวจนับแพคเกจห่อกันชื้น ได้ 39 มัด รวมยาบ้าประมาณ 77,900 เม็ด ตรวจสอบพบเป็นยาบ้า แพคเกจ ตราอักษร สีน้ำเงิน Y1 จากข้อมูลการจับกุม เป็นยาบ้ากำลังระบาดในพื้นที่ชายแดนอีสาน มีราคาซื้อขายประมาณ เม็ดละ 5 -10 บาท ทำให้มีลูกค้าต้องการจำนวนมาก เป็นการตลาดของแก๊งค้ายาบ้า ลดต้นทุนการผลิต ขายราคาถูกเพื่อเพิ่มยอดขาย โดยจากข้อมูลหน่วยงานความมั่นคง ในห้างต้นปีที่ผ่านมา พื้นที่ชายแดน จ.นครพนม มีการตรวจยึดยาบ้ามากกว่า 12 ล้านเม็ด ส่วนการตรวจยึดครั้งนี้ แก๊งค้ายาไหวตัวขับเรือหนีทัน เชื่อเป็นชาวลาวรับจ้างขน พร้อมวางมาตรการเข้มงวด สกัดกั้นปราบปรามจับกุม ในพื้นที่ชายแดน

น.อ.วรรณะ เกื้อทิพย์ ผบ.นรข.เขตนครพนม เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ยอมรับว่าในช่วงน้ำโขงเพิ่มสูง เอื้อต่อความสะดวก ให้กับขบวนการค้ายาเสพติด มีการลักลอบขนส่งเข้ามาในพื้นที่ชายแดน อีสานมากขึ้น เพราะลำเลียงขนส่งง่าย มีการจับบ่อยครั้ง และส่วนใหญ่จะพบว่า มีเครือข่ายในพื้นที่ดูแล จึงต้องวางมาตรการป้องกันทุกรูปแบบ ทั้งการประสานกับทุกหน่วยงาน ลงพื้นที่ลาดตระเวน ตรวจสอบ ไปจนถึงสร้างความร่วมมือกับชุมชนแจ้งเบาะแสหาข่าวรวมถึงคัดกรองทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ดำเนินคดีทุกราย ตัดวงจรการค้า