หลายพื้นที่ในเขตอำเภอเมืองภูเก็ต เกิดสถานการณ์น้ำท่วมขัง น้ำรอระบาย จากสภาวะฝนตกต่อเนื่องทั้งวัน เร่งให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก เคลื่อนย้าย อพยพประชาขนในพื้นที่เสี่ยงแล้ว พร้อมให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำต่อเนื่อง

วันที่ 16 กันยายน 2567 เวลา 17.00 น. นายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอำเภอเมืองภูเก็ต ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมขัง น้ำรอระบาย ในพื้นที่เขตอำเภอเมืองภูเก็ต จากสภาวะฝนตกต่อเนื่องทั้งวัน และสั่งการให้กำลังปกครองอำเภอเมือง นำชุด ร้อย อส.เมืองภูเก็ต ชุดเคลื่อนที่เร็ว เข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน พร้อมประสานความร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เหตุน้ำท่วมขัง น้ำรอระบาย ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่โดยรอบ หากพบพื้นที่ใดมีจุดเสี่ยงมากให้เร่งเคลื่อนย้าย อพยพประชาชน สัตว์เลี้ยง และสิ่งของยังพื้นที่ปลอดภัย เนื่องจากสภาวะฝนยังตกต่อเนื่อง

ทั้งนี้ พื้นที่น้ำท่วมในเขตอำเภอเมืองภูเก็ต ที่ประชาชนควรหลีกเลี่ยงเส้นทาง ได้แก่ ถนนสายปฎัก บริเวณหน้าตลาดพอเพียง หมู่ที่ 2 บ้านกะตะ ตำบลกะรน ซอยกะตะ 10 หมู่ที่ 4 บ้านคอกช้าง ตำบลกะรน ถนนสายบ่อแร่-เขาขาด หมู่ที่ 6 ตำบลวิชิต ซอยโคกตโนด หมู่บ้านกะตะ ถนนวิเศษขาออก หมู่ที่ 4 บ้านบางคณฑี ตำบลราไวย์ หน้าร้านซุปเปอร์ชีพ ถนนปฎัก หมู่ที่ 1 บ้านกะรน หน้าโรงแรม ออน ออน ถนนปฎัก ซอยปฎัก 12 หมู่ที่ 3 บ้านบางลา ตำบลกะรน ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก หมู่ที่ 10 บ้านยอดเสน่ห์ หมู่ที่ 1 และ หมู่ที่ 7 บ้านใสยวน ตำบลราไวย์ ซึ่งแต่ละจุดมีน้ำท่วมขังผิวจราจร น้ำท่วมขัง ไหลเข้าบ้านเรือนประชาชน และมึต้นไม้ล้มทับสายไฟฟ้าในบางจุด ขอให้ประชาชนใช้เส้นทางด้วยความระมัดระวัง

นอกจากนี้ ได้รับการรายงานจากเทศบาลตำบลกะรน ได้มีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม บริเวณหมู่ที่ 2 ตำบลกะรน มาอาศัยพักพิงชั่วคราว ณ วัดกิตติสังฆาราม หรือวัดกะตะ จนกว่าจะมีความปลอดภัย และได้ประกาศแจ้งให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย แจ้งขอความช่วยเหลือในการเคลื่อนและอพยพมายังพื้นที่ปลอดภัย ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนทางด้าน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต เร่งนำเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ ติดตั้งยังจุดต่างๆเพื่อช่วยระบายน้ำ ซึ่งหากฝนหยุดตกและทิ้งช่วงสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ทั้งนี้ทางจังหวัดได้สั่งการให้ทุกหน่วยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องเนื่องจากในช่วงนี้อยู่ในช่วงฤดูมรสุม