วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 16:21 น.
สวรรค์มัลดีฟส์ล่ม กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวร้องทนายรัชพลถูกนายหน้าหลอกไปทำงานโรงแรมนับสิบรายเสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท
นนทบุรี : วันที่ 28 ก.พ 66 ที่สำนักงานทนายรัชพล ศิริสาคร ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี กลุ่มผู้เสียหายประมาณ 18 คนจากจังหวัดต่าง ๆ เดินทางเข้าปรึกษาคดีและขอความช่วยเหลือกับทนายรัชพล ศิริสาคร หลังถูกนายหน้าอ้างตัวว่ามีโควต้ารับคนไปทำงานในโรงแรมที่ประเทศมัลดีฟส์ รายได้เฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 7 - 8 หมื่นบาท เมื่อผู้เสียหายสนใจหลงเชื่อและติดต่อไป จะถูกเร่งให้รีบโอนเงินจองสิทธิ์ก่อนที่โควต้าจะเต็ม ทำให้มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อเป็นจำนวนมากจากหลายจังหวัด
โดยนางพิไลทอง อายุ 44 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร ซึ่งตกเป็นผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนคือผู้เสียหายคนล่าสุดที่ถูกนายอ้างกลุ่มนี้หลอกให้โอนเงินจองโควต้าไปทำงานที่ประเทศมัลดีฟส์เป็นเงินจำนวน 5 หมื่นบาท โดยก่อนหน้านี้ตนได้ไปเห็นโฆษณาในเฟซบุ๊กที่นายหน้าคนดังกล่าวลงรีวิวส่งคนไปทำงานที่ประเทศมัลดีฟส์ ตนเกิดความสนใจจึงทักข้อความติดต่อไปสอบถาม จึงถูกชักชวนว่า เขามีโควต้าสุดท้ายพอดีที่จะรับคนงานไปทำงานในโรงแรมที่ประเทศมัลดีฟส์ พร้อมกับที่พักฟรี บวกเงินเดือนตกประมาณ 6 - 7 หมื่น ด้วยความสนใจและกลัวเสียสิทธิตนจึงตัดสินใจโอนเงินไปจำนวน 5 หมื่นบาท ซึ่งทางนายหน้าก็บอกให้ตนรอเรื่องหมายกำหนดการเดินทางในวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตนกับกลุ่มคนที่หลงเชื่อนายหน้ารายนี้จึงได้เดินทางกันจากต่างจังหวัดมาพักรอที่โรงแรมย่านลาดพร้าวในวันที่ 24 ธ.ค.เพื่อเตรียมตัวบินในวันที่ 25 ธ.ค. แต่ปรากฎว่าเมื่อตนได้สอบถามเรื่องตั๋วเครื่องบินกับทางนายหน้าไปเพื่อจะเช็กเที่ยวบิน กลับถูกนายหน้าปฎิเสธโดยอ้างว่าเป็นเอกสารภายในของบริษัท และจะแจ้งให้พวกตนทราบได้ที่สนามบินเท่านั้น และในท้ายที่สุดทางนายหน้าก็แจ้งกลับมาในวันนั้นว่า ขอเลื่อนการเดินทางออกไปเนื่องจากทางโรมแรมที่มัลดัฟส์เป็นผู้ขอเลื่อนมา โดยอ้างว่าหากทางโรมแรมที่มัลดีฟส์พร้อมและติดต่อกลับมา ทางนายหน้าก็จะแจ้งและนัดหมายการเดินทางอีกครั้ง แต่ปรากฎว่าตลอดระยะเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ตนถูกนายหน้านัดหมายแล้วขอเลื่อนในลักษณะนี้มาแล้ว 3 ครั้ง จนกระทั่งต่อมาตนกับกลุ่มผู้เสียหายคนอื่นๆ จึงได้เดินทางไปร้องเรียนที่ตำรวจกองปราบ แต่ก็ถูกนายหน้าส่งตัวแทนมาผลัดผ่อนขอคืนเงินให้เมื่อวานนี้ สุดท้ายก็ถูกอ้างขอเลื่อนนัดหมายออกไปอีก
ทางด้านนายอดิเทพ อายุ 35 ปี เปิดเผยว่า ตนและภรรยาทำงานขับรถกระบะส่งของทั่วไป แต่มาในระยะหลังรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ตนกับภรรยาก็คิดกันว่าอยากจะหางานใหม่ทำ จนกระทั่งประมาณต้นเดือนธันวาคม 65 ภรรยาได้เห็นเฟซบุ๊ก โพสต์รับสมัครคนไปทำงานต่างประเทศ ภรรยาจึงมาปรึกษาและชักชวนตนให้ไปทำงานที่ประเทศมัลดีฟส์ โดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 8 หมื่น รวมเป็นเงิน 1.6 แสนบาท แต่ตนมีเงินเก็บอยู่เพียง 1 แสนบาท จึงตัดสินใจไปกู้ยืมเงินอีก 6 หมื่น เพื่อที่จะรวบรวมโอนเงินไปให้นายหน้ารายนี้เพื่อจองโควต้า จนต่อมาตนได้รับแจ้งจากนายจ้างคนดังว่าวันที่ 25 ธ.ค.65 ให้เตรียมตัวเดินทางขึ้นเครื่องไปทำงานที่มัลดีฟส์วันที่ 24 ธ.ค.65 ตนและภรรยา และกลุ่นคนที่เดินทางไปทำงานที่มัลดีฟส์ประมาณ 20 กว่าคนได้มานอนพักที่โรงแรมย่านลาดพร้าว เพื่อเตรียมตัวรอขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่สุดท้ายพอถึงวันที่จะต้องไปขึ้นเครื่องทางนายหน้าก็แจ้งกลับมาว่าทางโรงแรมที่ประเทศมัลดีฟส์ ขอเลื่อนกำหนดไม่สามารถเดินทางไปได้
นายอดิเทพ กล่าวอีกว่า หลังถูกเลื่อนนัดหมายเดินทางไปทำงานที่ประเทศมัลดีฟส์ในวันที่ 25 ธ.ค. ตนกับกลุ่มผู้เสียหายอีกหลายราย จึงได้เดินทางไปที่กองปราบปรามในวันที่ 26 ธ.ค. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายหน้ากลุ่มนี้ แต่ก็ถูกทางนายหน้าส่งคนมาเจรจาไม่ให้แจ้งความพร้อมกับขู่ว่าจะดำเนินคดีกับคนที่ไปแจ้งความและจะไม่ได้รับเงินคืน จึงมีการตกลงกันเป็นหนังสือสัญญาว่าทางนายหน้ารายนี้จะโอนเงินคืนให้กับผู้เสียหายทั้งหมดในวันที่ 27 ก.พ.หรือเมื่อวานนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครได้รับเงินคืน แต่ได้รับข้อความตอบกลับมาแทนว่า จะจ่ายเป็นเช็กคืนให้หลังวันที่ 9 เป็นต้นไปแต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นเดือนไหน ตนกับกลุ่มผู้เสียหายคิดว่าคงถูกนายหน้ารายนี้หลอกลวงเอาเงินไปทั้งๆที่ไม่มีโควต้ารับคนไปทำงานที่ประเทศมัลดีฟส์จริง จึงตัดสินใจมาปรึกษาคดีและขอความช่วยเหลือกับทางทนายรัชพล
ทางด้านทนายรัชพล ศิริสาคร เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ากลุ่มนายหน้าที่อ้างตนว่ามีโควค้าให้ผู้เสียหายไปทำงานที่ประเทศมัลดีฟส์ แต่ไม่มีโควต้าที่แท้จริง เข้าข่ายความผิดในเรื่องฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งคดีนี้ตรวจสอบไม่ยากเพราะพบพิรุธหลายอย่าง อย่างเรื่องตั๋วเครื่องบินซึ่งไม่ใช่เอกสารลับอะไร แต่ทำไมไม่ให้ผู้เสียหายดู มันไม่ใช่เอกสารที่จะต้องปกปิดอะไร แบบนี้ก็เหมือนมีเจตนาไม่บริสุทธิ์แล้ว นอกจากนี้หากทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำเรื่องติดต่อไปยังโรงแรมที่นายหน้าอ้างว่ามีโควต้ารับคนทำงานอยู่ ว่ามีการติดต่อกับนายหน้ากลุ่มนี้จริงหรือไม่ ก็สามารถตรวจสอบความจริงได้ไม่ยาก รวมทั้งการตรวจสอบกับทางสายการบินในไฟล์เดินทางวันดังกล่าวว่า มีการจองตั๋วเดินทางจริงหรือไม่ ก็จะรู้ความจริงในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้เสียหายประมาณ 20 คน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้โอนเงินเพื่อจองโควต้าไปทำงานโรงแรมในประเทศมัลดีฟส์ จากกลุ่มนายหน้าทั้ง 3 รายซึ่งเกี่ยวข้องกัน เป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 1.5 ล้านบาท ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางทนายรัขพลจะพากลุ่มผู้เสียหายกลุ่มนี้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีที่กองปราบปราม พร้อมกับกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มนายหน้ากลุ่มนี้หลอกให้ไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน