วันที่ 8 กันยายน 2567 เวลา 15:36 น.
ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พระราชทานพระโอวาทแก่นักศึกษาใหม่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ ผ่านระบบออนไลน์
วันศุกร์ที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๕๖ น. ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เสด็จออก ณ อาคารศูนย์การแพทย์มะเร็งวิทยาจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ในการพระราชทานพระโอวาทแก่นักศึกษาใหม่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ และนักศึกษาใหม่เข้าร่วมพิธี ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น ๓ อาคารวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร การนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กราบทูลถวายรายงานและกล่าวเบิกผู้แทนนักศึกษาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนตามลำดับ สำหรับปีการศึกษา ๒๕๖๗ นี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์มีนักศึกษาใหม่ทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก รวม ๔๒๕ คน ประกอบด้วย นักศึกษาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน จำนวน ๗๕ คน นักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลศาสตร์อัครราชกุมารี จำนวน ๑๘๐ คน นักศึกษาคณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ จำนวน ๑๔๒ คน และนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ หลักสูตรนวัตกรรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จำนวน ๒๘ คน
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดตั้งขึ้นตามพระปณิธานใน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในการเป็นศูนย์กลางการเรียนการสอน และการวิจัยขั้นสูงที่มุ่งสร้างบัณฑิตและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ทางด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์ การสาธารณสุขที่มีจิตในการทำประโยชน์ให้ผู้อื่นก่อนคิดถึงประโยชน์ของตัวเอง พร้อมบริการสังคมด้วยความรู้ความชำนาญ คุณธรรมจริยธรรม จิตอาสา ความมุ่งมั่น และด้วยความเป็นเลิศในวิชาชีพเพื่อทุกชีวิตในสังคม อีกทั้งยังเป็นสถาบันที่ให้บริการทางการแพทย์ด้วยมาตรฐานสากลแก่ประชาชนอย่างไม่หวังผลกำไร โดยเฉพาะผู้ที่ยากไร้และด้อยโอกาส เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทั้งประเทศ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มุ่งเน้นการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรที่มีความสำคัญและตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ โดยเฉพาะสาขาวิชาที่ยังขาดแคลนและมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อสังคมไทยและนานาชาติ ทั้งในด้านการแพทย์ การสาธารณสุข วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์สุขภาพ พร้อมทั้งมุ่งบูรณาการงานวิจัย งานบริการวิชาการผสมผสานอยู่ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อมุ่งให้เกิดผลลัพธ์ของบัณฑิตในทุกมิติที่สอดคล้องกับเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
โอกาสนี้ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ได้พระราชทานพระโอวาทแก่นักศึกษาใหม่ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ความว่า “ ขอต้อนรับนักศึกษาใหม่ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ทุกคนด้วยความยินดียิ่ง การศึกษาในระดับอุดมศึกษานี้เป็นการศึกษาเพื่อพัฒนากำลังคนขั้นสูงให้มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางเพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เล็งเห็นความสำคัญของการให้ความรู้ส่งเสริมทักษะการวิจัย และปลูกฝังความมีจิตสาธารณะและมีจิตที่เมตตาต่อผู้อื่น เพื่อสร้างบุคลากรที่เป็นคนเก่ง และคนดี
ข้าพเจ้าขอน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เรื่องของการศึกษาที่พระราชทานไว้ว่า “การศึกษาหาความรู้สำคัญตรงที่ว่า ต้องศึกษาเพื่อให้เกิดฉลาดรู้ คือ รู้แล้วสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ๆ โดยไม่เป็นพิษเป็นโทษ การศึกษาเพื่อความฉลาดรู้ มีข้อปฏิบัติที่น่าจะยึดเป็นหลักอย่างน้อยสองประการ ประการแรก เมื่อจะศึกษาสิ่งใดเรื่องใดให้รู้จริง ควรจะศึกษาให้ตลอด ครบถ้วนทุกแง่ทุกมุม ไม่ใช่เรียนรู้แต่เพียงบางส่วนบางตอน หรือเพ่งเล็งเฉพาะแต่เพียงบางแง่บางมุม อีกประการหนึ่ง ซึ่งจะต้องปฏิบัติประกอบพร้อมกันไปด้วยเสมอ คือ ต้องพิจารณาศึกษาเรื่องนั้น ๆ ด้วยความคิดจิตใจที่ตั้งมั่นเป็นปกติและเที่ยงตรงเป็นกลาง”
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ข้าพเจ้าก่อตั้งสถาบันการศึกษาแห่งนี้ ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นักศึกษาทุกท่านจะใช้เวลาและโอกาสอันมีค่านี้ สั่งสมความรู้ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอย่างฉลาดและมีสติ ประสบความสำเร็จในการศึกษาตามที่มุ่งหวังและเป็นบัณฑิตที่มุ่งมั่นทำความดี มีเมตตาและสามัคคี เป็นทรัพยากรของมนุษย์ที่มีค่า และสร้างความมั่นคงให้แก่ตนเอง ครอบครัวและประเทศชาติต่อไป”
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน