ปอท.บุกรวบหนุ่มหึงแฟนเก่าปล่อยคลิปลับลงโซเชียล

7 ก.ย.67 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) โดย พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น กก.3 บก.ปอท. ร่วมตรวจค้น บ้านพัก ตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ตามหมายค้นศาลจังหวัดลพบุรี ลงวันที่ 5 ก.ย.67  พร้อมจับกุม นายกก (นามสมุติ) อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3241/2567 พร้อมตรวจยึดพยานหลักฐานซึ่งได้ใช้ในการกระทำความผิด ประกอบด้วย
โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Xiaomi 11T Pro สีเทา  จำนวน 1 เครื่อง
โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPA A9 2020 สีน้ำเงิน  จำนวน 1 เครื่อง

สืบเนื่องมาจาก ช่วงเดือน มิ.ย.67 ได้มี เจ้าของร้านเช่ากระเป๋าแบรนด์เนมสาวรายหนึ่ง ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. กรณีถูกนายกก (นามสมุติ) อายุ 37 ปี  อดีตแฟนหนุ่มปล่อยคลิปวิดีโอลับ ข่มขู่และรบกวนอย่างต่อเนื่องหลังจากเลิกรากันไป พนักงานสอบสวนได้สอบสวนรวบรวมพยาน หลักฐานจนกระทั่งขออนุมัติหมายจับตามหมายจับศาลอาญาที่ 3241/2567 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2567

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายกก (นามสมุติ) ผู้ต้องหา  ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี มีพฤติกรรมหมกตัวอยู่แต่ภายในบ้าน จึงเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวตามหมายค้นศาลจังหวัดลพบุรีที่ ค 141/2567 ลงวันที่ 5 กันยายน 2567 ผลการตรวจค้นพบนายกก (นามสมุติ) ผู้ต้องหา อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุม และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.๓ บก.ปอท. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การเบื้องต้น นายกก (นามสมุติ) ผู้ต้องหา ให้การรับว่าเป็นคนปล่อยคลิปวิดีโอลับของอดีตแฟนสาวจริง โดยเป็นภาพขณะวิดีโอคอลในช่วงที่คบหากัน สาเหตุเพราะเกิดความหึงหวง และความโกรธ ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ นายกก (นามสมุติ) ผู้ต้องหา จึงได้ส่งคลิปวิดีโอไปให้แอดมินในแอปพลิเคชันหนึ่งเผยแพร่ ภายหลังคิดได้จึงตัดสินใจให้เเอดมินลบคลิป

ทั้งนี้ จะได้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในความผิดฐาน “หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328,309 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2535 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 14 (4)