คุณยายวัย 85 ปีมีอาการหลงลืม หายออกจากบ้าน ก่อนพบเสียชีวิตตรงช่องวางเท้าเบาะหลังในรถเก๋งที่จอดทิ้งไว้ข้างทาง จ.นนทบุรี

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 5 ก.ย.67 พ.ต.ท.พันธ์พัฒน์ เศษบุพผา สารวัตรสอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้รับเเจ้งเหตุ มีหญิงชรานอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ ที่จอดในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี  

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีเขียว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ริมกำแพง จากการตรวจสอบภายในรถ พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมา นางละเมียด อายุ 85 ปี สภาพนอนหงายอยู่ที่บริเวณช่องวางเท้าของเบาะหลัง ไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขาสั้นสีม่วงเพียงตัวเดียว ตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด เเพทย์ระบุเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชม.

ทางสามีผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ภรรยาของตนหายไปตั้งเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) ช่วงบ่าย ปกติแกจะหายออกจากบ้านไม่บ่อยเท่าไหร่ โดยเมื่อวานหายไปเป็นครั้งที่ 2 ก่อนหน้านี้เคยหายไปครั้งหนึ่ง แต่ก็ตามหาจนเจอ จนกระทั่งครั้งนี้ เจ้าของรถเขาเดินมาดูรถแล้วก็เจอภรรยาของตนนอนเสียชีวิตอยู่ในรถ ตนใช้ชีวิตอยู่กินกับกับภรรยามาประมาณ 20 ปี พักหลังภรรยามีอาการหลงๆ ลืมๆ ตามอายุที่มากขึ้น ซึ่งตนไม่ติดใจเรื่องสาเหตุของการเสียชีวิตของภรรยา

ทางด้าน เจ้าของรถยนต์ กล่าวว่า ก่อนเจอศพในรถ กำลังยืนคุยกับลูกๆ หลานๆ ซึ่งอยู่ใกล้กับรถ จากนั้นได้กลิ่นเหม็นโชยออกมาจากข้างในรถ จึงไปเปิดดู พบศพยายนอนเสียชีวิตอยู่ จึงไปเรียกญาติของผู้เสียชีวิตให้มาดู ปกติรถคันนี้ไม่ได้ใช้งาน ถอดอะไหล่และอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาเกือบหมดเเล้ว ตอนนี้จอดเอาไว้เฉยๆ ซึ่งปกติไม่ได้ล็อคประตูรถ แต่ปิดกระจกทั้ง 4 บานเอาไว้ เพราะเกรงว่าน้ำจะเข้าไปในตัวรถ เนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝน ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าผู้เสียชีวิตเคยเข้าไปนอนในรถหรือเปล่า เพราะโดยส่วนตัวไม่ได้รู้จักหรือสนิทสนมกันแต่อย่างใด

นายอิสสระ เจ้าของรถยนต์กล่าวต่ออีกว่า เมื่อวานช่วงบ่าย ยังเจอผู้เสียชีวิตอยู่เลย จนกระทั่งช่วงบ่ายวันนี้มาเจอกลายเป็นศพแล้ว ก็รู้สึกตกใจ ที่จู่ๆ มีคนเข้าไปนอนเสียชีวิตอยู่ในรถได้อย่างไร

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้เสียชีวิต ใช้มือทั้งสองข้างถัดก้นไปที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูเข้าไปนอนในรถด้วยตนเอง ไม่ได้ถูกใครทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด โดยคาดว่าสาเหตุการเสียชีวิตอาจจะเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงมอบร่างผู้เสียชีวิตให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป