วันที่ 4 กันยายน 2567 เวลา 05:50 น.
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 3 กันยายน 2567
>> อุบัติเหตุหมู่ รถชนกัน 6 คัน มีผู้เสียชีวิตร่างติดค้างในซากรถ
06.30 น. รับแจ้งจาก อาสาสมัครกู้ภัยสว่างบำเพ็ญฯ จ.ปราจีนบุรี มีอุบัตเหตุรถชนกันจำนวนหลายคัน และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนหมายเลข 3079 ใกล้เคียงทางเข้าหมู่บ้านเดอะนารา หน้าบิ๊กซีมินิ ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถบัสรับส่งพนักงาน สีขาว ป้ายทะเบียน ปราจีนบุรี, รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีเลือดหมู ป้ายทะเบียน ปราจีนบุรี, รถตู้โดยสาร โตโยต้า สีเทา ทะเบียน ปราจีนบุรี, รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สีดำ ป้ายทะเบียน สระแก้ว และในเลนฝั่งตรงข้าม พบรถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีดำ ป้ายทะเบียน ปราจีนบุรี, รถอเนกประสงค์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ป้ายทะเบียน ปราจีนบุรี สภาพเฉี่ยวชนกัน
จากการตรวจสอบ พบว่ามีผู้บาดเจ็บจำนวน 6 รายอาสาสมัครช่วยเหลือและนำส่ง รพ.ศรีมหาโพธิ ส่วนในจุดเกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต 1 รายร่างติดค้างในรถกระบะอีซูซุ จนท.ใช้เครื่องมือตัดถ่างเพื่อนำร่างออกจากยานพาหนะ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีมหาโพธิ
>> 2 หนุ่มอาชีวะ ขับขี่-ซ้อนท้ายรถ จยย. ชนรถเก๋งเข้าอย่างจัง เจ็บ 1 และเสียชีวิต 1 ราย
08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธาราม ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้าตัวเมืองราชบุรี ช่วงจุดกลับรถน้ำหัก ในพื้นที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า โซนิค สีดำ ป้ายทะเบียน 592 ราชบุรี ล้มคว่ำสภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน ใกล้กันพบรถนั่งส่วนบุคคล เชฟโลเล็ต สีขาว ป้ายทะเบียน 2887 กทม. สภาพประตูฝั่งขวามีร่องรอยการชนเสียหาย
ตรวจสอบ พบว่ามีผู้บาดเจ็บ 1 รายเป็นชายไทย อายุ 16 ปี มีอาการสาหัส ทางอาสาสมัครช่วยเหลือและนำส่ง รพ.โพธาราม ส่วนในจุดเกิดเหตุพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 16 ปี ทั้งคู่สวมใส่เครื่องแบบนักเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ราชบุรี
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ขับขี่รและซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว จะไปเรียนในเขต อ.เมืองราชบุรี ช่วงนั้นฝนตกลงมา ขณะที่รถเก๋งคันดังกล่าว ขับออกมาจากซอยน้ำหักเพื่อจะข้ามถนนไปยังอีกฝั่ง เป็นจังหวะ รถจยย.ใช้เส้นทางมาจึงพุ่งชนอย่างแรง จนทำให้เป็นอุบัติเหตุดังกล่าว ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงทางเจ้าพนักงานสอบสวนจะดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
>> ผู้ว่าฯ ชัชชาติ พร้อมคณะ ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมรับมือน้ำเหนือ
10.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่บริเวณวัดสร้อยทองถึงท่าเรือเทเวศน์ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์มวลน้ำเหนือที่จะไหลลงมาจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานคร
สำหรับกรุงเทพมหานครมีความยาวริมตลิ่งประมาณ 88.00 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมถาวรของกรุงเทพมหานคร ความยาวประมาณ 80 กิโลเมตร เป็นแนวป้องกันตนเองของเอกชนหรือหน่วยงานอื่น ความยาวประมาณ 3.65 กิโลเมตร และเป็นแนวฟันหลอหรือแนวป้องกันตนเองที่มีระดับน้ำต่ำและความมั่นคงแข็งแรงไม่เพียงพอ ความยาวประมาณ 4.35 กิโลเมตร โดยระดับความสูงคันกั้นน้ำแนวป้องกันน้ำท่วมของกรุงเทพมหานคร ความสูงประมาณ +2.80 ถึง +3.50 ม.(รทก.) โดยความจุลำน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณกรุงเทพมหานคร จะสามารถรองรับปริมาณน้ำเหนือไหลผ่านได้ประมาณ 2,500-3,000 ลบ.ม./วินาที โดยที่ไม่มีน้ำล้นข้ามแนวป้องกันน้ำท่วม แต่ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ยังอยู่ในเกณฑ์ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครได้เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ระดับน้ำที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างทันท่วงที
>> ชายป่วยทางจิต ชักมีดฟันประตูในโรงพยาบาล คาดเครียดรอหมอนาน
10.15 น. ศูนย์วิทยุตำรวจภูธรจังหวัดตราด ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายคลุ้มคลั่ง ถืออาวุธมีดทำลายข้าวของใน รพ.ตราด จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.เมืองตราด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราด เข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบชายเดินถืออาวุธมีด มุ่งหน้าไปทางตลาดสดเทศบาลเมืองตราด เจ้าหน้าที่ต้องประกาศออกลำโพงให้ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าให้เดินหลบ ชายคนดังกล่าวได้เดินเลี้ยวไปทางซอยสัตยุดม์ เมื่อถึงกลางซอยที่มีชาวบ้านจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้กันชาวบ้านออกจากพื้นที่ และใช้ปืนไฟฟ้ายิงชายคนดังกล่าวจนล้มลง ก่อนจะคุมตัวไว้ได้ พร้อมอาวุธมีดพร้า
จากการสอบถาม ชายผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นชาวกัมพูชา อายุ 43 ปี เล่าว่า กำลังจะเดินกลับบ้านที่ประเทศกัมพูชา ส่วนมีด ซื้อมาจากร้านค้าแถว รพ. เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งรักษาที่ รพ.ตราด
ด้าน นางสาวอารียา อายุ 48 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนพาลูกสาวมารักษาที่ รพ. ส่วนผู้ก่อเหตุ นั่งรอหมออยู่ที่แผนกจิตเวช พยาบาลได้ถามผู้ก่อเหตุ ว่าเอามีดมาทำไม แต่ผู้ก่อเหตุบอกว่าไม่ต้องกังวล ซื้อมาเฉยๆ ไม่ได้จะทำร้ายใคร จากนั้นผู้ก่อเหตุก็นั่งรออยู่สักพัก แล้วเกิดอาการคลุ้มคลั่ง เดินไปที่ประตูห้องตรวจ ใช้มีดที่พกมาฟันประตูกระจกจนแตก และเดินหนีออกไปนอก รพ. ส่วนลูกสาวของตน ตกใจจนเป็นลม ต้องให้พยาบาลช่วยกันปฐมพยาบาลและส่งห้องฉุกเฉิน
>> อุบัติเหตุหมู่รถชนกัน 4 คัน มีเสียชีวิต 2 และผู้บาดเจ็บหลายราย
10.50 น. รับแจ้งจากมูลนิธิปฐมบรมราชนุสรณ์ มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน 4 คัน และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนทางหลวงชนบทหมายเลข รบ.1044 เส้นทางพิกุลทอง - บ้านไร่ชาวเหนือ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ราชบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม., รถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีดำ ป้ายทะเบียน ราชบุรี, รถยนต์อเนกประสงค์ โตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ สีทอง ป้ายทะเบียน ราชบุรี และรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า ซีวิค สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะเฉี่ยวชนกัน
จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย โดยเป็นชาย 1 รายและหญิง 2 ราย ทางอาสาสมัครให้การช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลราชบุรี และโรงพยาบาลเมืองราช ส่วนในจุดเกิดเหตุพบว่ามีผู้เสียชีวิต เป็นชาย 2 ราย อยู่ในรถเก๋งฮอนด้า ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี
>> ตำรวจไซเบอร์ร่วม กสทช. บุกถอดจานส่งสัญญาณเถื่อน ลอบกระจายอินเตอร์เน็ตข้ามโขง
12.46 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ได้ตรวจพบการลักลอบส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบไร้สายข้ามแม่น้ำโขงไปยังฝั่งประเทศลาว จากพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จึงได้ลงพื้นที่เก็บรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออำนาจศาลออกหมายค้นพื้นที่เป้าหมายได้สำเร็จ
ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 4 กองบังคับการ สอท.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. ภาค 3 และ กสทช.เขต 34 พร้อมเจ้าหน้าที่ สภ.เชียงแสน นำหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงราย ลงวันที่ 29 ส.ค.2567 เข้าตรวจค้นจุดติดตั้งเสาสัญญาณขนาดใหญ่ ในพื้นที่ ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งห่างจากแม่น้ำโขงประมาณ 800 เมตร โดยฝั่งตรงข้ามแม่น้ำในประเทศลาว พบว่าเป็นที่ตั้งของอาณาจักรคาสิโนชื่อดัง
ผลการตรวจค้น พบว่ามีการตั้งสถานีวิทยุโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานฯ โดยสถานีวิทยุคมนาคมดังกล่าวได้มีการติดตั้งเครื่องวิทยุคมนาคม wireless link เพื่อรับ-ส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบไร้สายด้วยสายอากาศแบบจานสะท้อนคลื่น ติดตั้งอยู่บนเสาทาวเวอร์ดังกล่าว จึงได้ร่วมกันถอดอุปกรณ์และตรวจยึดของกลาง และนำของกลางดังกล่าวไปตรวจสอบพร้อมขยายผล เพื่อจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป
>> ปภ.เตือน พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 10 จังหวัดภาคกลางรวมถึงกทม. เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ-ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง
14.41 น. นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รับแจ้งจากกรมชลประทาน ว่า ในช่วงวันที่ 3–9 ก.ย. ร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคใต้
จากการคาดการณ์ปริมาณน้ำล่วงหน้า 1 – 7 วันข้างหน้า พบว่าปริมาณน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยในวันที่ 9 ก.ย. ที่สถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน ประมาณ 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขา ประมาณ 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณ 1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และรับน้ำเข้าระบบกรมชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง ในอัตรา 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทำให้มีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีผลต่อพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.25 – 0.40 เมตร และอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.เป็นต้นไป
ทาง กอปภ.ก. จึงได้ประสาน 10 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ
>> หนุ่มขับขี่รถ จยย. มีแฟนสาวนั่งซ้อนท้าย ถูกรถ จยย.อีกคันเฉี่ยวล้ม รถพ่วงขับตามมาทับแฟนสาวเสียชีวิต
15.00 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตี๊ง มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ชนกับรถพ่วง และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเทพรัตน (บางนาตราด) ฝั่งขาออก ช่วงหลัก กม.ที่ 19 ในช่องทางหลัก พื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีส้ม - ดำ ป้ายทะเบียน กทม. ล้มคว่ำอยู่ข้างรถพ่วง ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน สมุทรปราการ ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 42 ปี
ทางด้าน สามีของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองขับขี่รถจยย. มีภรรยาซ้อนท้าย ก็ขับตามทางมาปกติ พอมาถึงที่เกิดเหตุปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์อีกคันเปลี่ยนเลนกระทันหัน ทำให้เฉี่ยวชนกับรถตนเอง จนรถล้ม พอหันไปก็พบว่าภรรยาก็ถูกล้อรถพ่วงที่ขับตามหลังทับจนนอนแน่นิ่งไปแล้ว ส่วนจักรยนต์คันที่เฉี่ยวชน ตอนแรกทำท่าว่าจะจอดลงมาดู แต่กลับรีบขับหลบหนีออกไป
ขณะที่คนขับรถพ่วงคู่กรณี บอกว่า ตนเองขับรถมาตามทางปกติ จนมาถึงที่เกิดเหตุคล้ายกับทับอะไรบางอย่างพอมองกระจกข้าง ก็รถว่ามีรถล้ม จึงจอดรถลงมาดู ก็พบร่างของผู้ตายแล้ว ส่วนรถจักรยานยนต์อีกคันหลบหนีไป
เบื้องต้นทางด้านพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี เชิญตัวคนขับและสามีของผู้เสียชีวิตไปสอบปากคำและจะตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามคู่กรณีที่เป็นรถจักรยานยนต์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตส่งไปชันสูจน์ที่นิติเวชสถบันรามาจักรกรีนฤบดินทร์
>> ตร.หนองปรือ ออกหมายจับ เฒ่าอินเดียหื่น ขืนใจสาว 14 จนตั้งครรภ์แล้วบังคับให้ทำแท้ง
16.36 น. พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดพัทยา ได้อนุมัติออกหมายจับ นาย ซิง อายุ 60 ปี สัญชาติอินเดีย ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งไม่ใช่ภริยาหนือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ขณะที่ในแนวทางการสืบสวน ได้สั่งการให้ทีมสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแส ปูพรหมเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ ยังกล่าวอีกว่า ญาติผู้เสียหายนั้นมีความพึงพอใจในกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หนองปรือเป็นอย่างมาก หลังจากก่อนหน้านี้เกิดความกลัวว่า ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากครอบครัวยากจนเกรงว่าจะแพ้อำนาจเงินของชาวต่างชาติ ก็ขอให้มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
>> รถไฟชนหนุ่มวัย 32 เสียชีวิต อาสากู้ภัยฯ ช่วยกันเดินตามหาศีรษะของผู้ตาย
19.40 น. สภ.เขาชัยสน รับแจ้งเหตุรถไฟชนชายเสียชีวิต ระหว่างสถานีเขาชัยสน-บ้านต้นโดน หมู่ 5 ต.ควนขนุน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง
ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากจุดลักผ่านทางรถไฟในหมู่บ้าน ประมาณ 100 เมตร พบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมา นายจักรพงษ์ อายุ 32 ปี ลักษณะถูกรถไฟชนนอนหงายเสียชีวิตอยู่ข้างรางรถไฟ ศีรษะขาดหายไป มีบาดแผลฉกรรจ์ตามร่างกาย และพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสีน้ำเงิน ทะเบียน 369 พัทลุง จอดอยู่ใกล้เคียง
ขณะที่ภรรยา ผู้ตายให้การว่า สามีออกไปทำงานจนค่ำแล้วยังไม่กลับเข้าบ้านจนกระทั่งเห็นในสื่อโซเชียลบอกว่ามีรถไฟชนคน เลยโทรไปบอกแม่ว่าสามียังไม่กลับบ้านให้แม่ช่วยโทรหาญาติพี่น้องหน่อยว่าอยู่ไหน ด้วยความเป็นห่วงพากันเดินทางมาดู เห็นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ก็ช็อกเพราะเป็นรถของสามี รู้ทันทีสามีโดนรถไฟชนเสียชีวิตแน่
จากนั้นเจ้าหน้าที่ช่วยกันหาศีรษะผู้ตาย ก่อนนำศพส่งรพ.พร้อมสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> รถกระบะ ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตเป็นชาวกัมพูชา
21.00 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ชนกับรถกระบะ และมีผู้เสียชีวิต ถนนเลียบคลอง 13 หนองเสือ ในพื้นที่ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีขาว ป้ายทะเบียน สระบุรี ชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน กทม. ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นผู้หญิง ชาวสัญชาติกัมพูชา อายุประมาณ 27 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองเสือ
>> รถเทรลเลอร์พลิกตะแคง รถอเนกประสงค์และรถกระบะชนซ้ำซ้อน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย
02.50 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก (ทล.9) มุ่งหน้าบางนา ช่วงหลัก กม.ที่ 7+400 มีอุบัติเหตุ รถบรรทุกพลิกตะแคง เลนขวา แล้วมีรถนั่งส่วนบุคคลขับตามหลังมาชนซ้ำ มีผู้บาดเจ็บสาหัส และยังติดค้างในยานพาหนะ ขณะนี้อาสาสมัคร กำลังดำเนินการใช้เครื่องมือตัดถ่าง
จากการตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ รถเทรลเลอร์ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะพลิกตะแคงอยู่ที่เลนขวา, กลาง และพบว่ามีอุบัติเหตุชนซ้ำซ้อน เป็นรถอเนกประสงค์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ป้ายทะเบียน กทม. และรถกระบะตู้ทึบ โตโยต้า รีโว่ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม.
อาสาร่วมกตัญญู ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ 1 รายในรถอเนกประสงค์ นำส่ง รพ.บางปะกอก รังสิต ส่วนภายในรถกระบะตู้ทืบนั้น พบว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นผู้ชาย 3 คน พื้นที่ สทล.ธัญบุรี
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน