หน้าแรก > อาชญากรรม

เปิดปฏิบัติการค้น 4 จุด บัญชีม้า คืนเงินที่ตกเบ็ดหลอกประชาชนหลงเชื่อ

วันที่ 31 สิงหาคม 2567 เวลา 05:11 น.


เปิดปฏิบัติการค้น 4 จุด บัญชีม้า คืนเงินที่ตกเบ็ดหลอกประชาชนหลงเชื่อ

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ) โดย พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พร้อมพร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ร่วมกันตรวจค้นจำนวน 4 จุด ดังนี้  

1. บริษัทแห่งหนึ่ง บ้านแห่งหนึ่ง แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 
2. บ้านแห่งหนึ่ง ซอยวัดประดู่ธรรมาธิปัตย์ ถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 
3. บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 6 ตำบลบางพระ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา 
4. บ้านแห่งหนึ่ง แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้ดำเนินการตรวจค้นบ้านพักอาศัย 4 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดฉะเชิงเทรา หลังได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับขบวนการหลอกลวงให้ประชาชน เปิดบัญชีธนาคาร และนำบัญชีธนาคารไปใช้ในการกระทำความผิด เช่น การหลอกลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการแลกเปลี่ยนเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัลเพื่อหลีกเลี่ยงการติดตาม จากการสืบสวนขยายผลพบว่าขบวนการ หลอกลงทุนได้แบ่งหน้าที่กันทำเป็นขั้นตอน ได้แก่ การจัดหาบัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการกระทำความผิด การใช้บัญชีธนาคารหลอกลวงประชาชน ตลอดจนการใช้บัญชีธนาคารแลกเปลี่ยนเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัลจากกลุ่ม คนค้าคริปโทเคอร์เรนซี เพื่อให้ยากต่อการสืบสวนและติดตามโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ

การตรวจค้นในครั้งนี้เป็นการสืบสวนเพื่อหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับบัญชีธนาคารที่ใช้ในขบวนการหลอกลวงดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นบ้านพักอาศัยทั้ง 4 จุด ซึ่งพบผู้ที่เกี่ยวข้องและมีส่วนในการเปิดบัญชีธนาคาร ดังนี้  

1. ที่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร พบ นายวี (นามสมมุติ) ให้การยอมรับว่าได้เปิดบัญชีธนาคารจริง ตามคำชักชวนของ น.ส.วิ (นามสมมุติ) มิจฉาชีพที่หลอกให้ไปทำงาน ที่ปอยเปต โดยเสนอรายได้สูงถึง 20,000 บาทต่อสัปดาห์ โดยให้เปิดบัญชีธนาคารและส่งข้อมูลบัญชีพร้อมรูปถ่ายให้กับมิจฉาชีพ นาย (นามสมมุติ) ได้เปิดบัญชีตามคำแนะนำโดยไม่ทราบว่าบัญชีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการ 
ทำธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้เขาต้องรับโทษทางกฎหมายร่วมกับกลุ่มมิจฉาชีพ

2. ที่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยวัดประดู่ธรรมาธิปัตย์ ถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร พบ นางสาว ยา (นามสมมุติ) ให้การยอมรับว่าได้เปิดบัญชีธนาคารจริง แต่ให้การว่าถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารจากการสมัครงานออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่าจะใช้บัญชีดังกล่าวในการรับเงินเดือน หลังจากเปิดบัญชีและส่งข้อมูลให้กับมิจฉาชีพ นางสาว ยา (นามสมมุติ) ก็ถูกบล็อกจากเฟซบุ๊กดังกล่าวและไม่สามารถติดต่อได้อีก ทำให้ไม่ทราบว่าบัญชีของจะถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิดใด ทั้งนี้ จากการตรวจค้น ผู้ที่ถูกพบในที่เกิดเหตุยอมรับว่าได้เปิดบัญชีธนาคารจริง แต่มีข้อเท็จจริงที่แตกต่างกัน เช่น บางคนถูกหลอกให้ไปทำงานต่างประเทศ โดยอ้างว่าต้องใช้บัญชีธนาคารในการรับเงินเดือน บางคนถูกหลอกให้สมัครงานออนไลน์และส่งบัญชีธนาคารไปใช้ในการรับเงินเดือน ซึ่งคำกล่าวอ้างทั้งหมดนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติม จากการตรวจสอบข้อมูลของ น.ส.วิ (นามสมมุติ) พบเป็นมิจฉาชีพที่มีหมายจับหลายคดีในข้อหาหลอกลวงและฉ้อโกงผ่านระบบคอมพิวเตอร์ จำนวนหลายหมายจับ และอยู่ระหว่างการหลบหนี ได้แก่ 
1. หมายจับ ลงวันที่ 2 พ.ย.66 ข้อหา : นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และฉ้อโกงประชาชน ออกโดยศาลจังหวัดนครปฐม 
2. หมายจับ ลงวันที่ ลงวันที่ 10 ม.ค.67 ข้อหา : ฉ้อโกงและนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ออกโดยศาลแขวงพระนครเหนือ 
3. หมายจับ ลงวันที่ 29 ม.ค.67 ข้อหา : ฉ้อโกง ออกโดยศาลแขวงพัทยา 
4. หมายจับ ลงวันที่ 27 มี.ค.67 ข้อหา : ฉ้อโกง ออกโดยศาลแขวงพระนครใต้ 
5. หมายจับ ลงวันที่ 28 มิ.ย.67 ข้อหา : ฉ้อโกง ออกโดยศาลจังหวัดธัญบุรี 
6. หมายจับ ลงวันที่ 4 ก.ค.67 ข้อหา : ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำข้อมูลอันเป็นเท็จ 
เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ออกโดยศาลจังหวัดชุมพร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการไล่ล่า ติดตามตัว น.ส.วิ (นามสมมุติ) มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 
 
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม