หน้าแรก > อาชญากรรม

เพื่อนบ้านโหด ดักยิงคู่กรณีบาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ. ตร.คาดปมพิพาทเรื่องที่ดิน จ.เพชรบุรี

วันที่ 22 สิงหาคม 2567 เวลา 04:50 น.


เพื่อนบ้านโหด ดักยิงคู่กรณีบาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ. ตร.คาดปมพิพาทเรื่องที่ดิน จ.เพชรบุรี

วันที่ 21 สิงหาคม 2567 สภ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี รับแจ้งมีบุคคลถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณบ้านแม่คะเมย หมู่ 5 ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

ที่เกิดเหตุ บริเวณหลังวัดแม่คะเมย พบหัวกระสุนปืนไม่ทราบขนาด 1 หัว ใกล้กันพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ซึ่งเป็นของผู้ตายจอดอยู่ ตรวจสอบที่บริเวณกระจกประตูข้างซ้ายด้านคนนั่งพบรอยกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง ส่วนผู้บาดเจ็บทางญาติได้นำส่ง รพ.แก่งกระจาน ทราบชื่อต่อมาคือนายชวนฯ อายุ 64 ปี แต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แก่งกระจาน ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุคือนายสมศักดิ์ฯ ชาว อ.แก่งกระจาน หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะ ไปจอดทิ้งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร และได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าไป เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการปิดล้อมติดตามการจับกุม

สอบถามภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า นายชวนฯ สามีของตนได้เคยมีปัญหาเรื่องที่ดินกับนายสมศักดิ์ฯ มานานแล้ว ก่อนเกิดเหตุตนและสามีได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยไปบอกนายสมศักดิ์ฯ ให้เอาลวดหนาวที่นายสมศักดิ์ฯ ผูกล้ำเข้ามาในแดนที่ดินของตน จากนั้นสามีตนได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวไปส่งลูกที่โรงเรียนแก่งกระจานวิทยา ขณะขับกลับเข้ามาถึงบริเวณทางเข้าไร่ นายสมศักดิ์ฯ ที่ดักซุ่มรออยู่ได้เดินเข้ามาประชิดประตูรถด้านคนนั่งแล้วใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงใส่นายชวนฯ จำนวนหลายนัด กระสุนปืนเข้าที่บริเวณหน้าอกสามีตน 1 แผล ใต้รักแร้ 2 แผล และสีข้างซ้าย 1 แผล สามีตนพยายามตะเกียกตะกายพยุงร่างหนีออกมาจากรถและมานอนฟุบอยู่กลางถนน ขณะที่ตนเข้าไปอุ้มร่างสามี นายสมศักดิ์ฯ ได้พูดว่าจะยิงให้ตายทั้งครอบครัว จากนั้นใช้อาวุธปืนยิงจ่อยิงมาที่ตนอีกหลายนัดแต่กระสุนไม่ถูกตนจึงได้ร้องตะโกนให้คนมาช่วย กระทั้งนายสมศักดิ์ฯ ได้วิ่งขึ้นรถและขับหลบหนีไป

พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ผกก.สภ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งกระจาน กระจายกำลังปิดล้อมบริเวณเชิงเขา หมู่ที่ 5 บ้านแม่คะเมย ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่นายสมศักดิ์ฯ ได้ทิ้งรถกระบะไว้และวิ่งหลบหนีเข้าป่าไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ว่า นายสมศักดิ์ฯ อาศัยความคุ้นเคยบริเวณป่าเชิงเขา ซึ่งเหมาะเเก่การอำพราง หากเจ้าหน้าที่ปฎิบัติหน้าที่อาจจะได้รับอันตรายได้เนื่องจากนายสมศักดิ์ฯ มีอาวุธติดตัว จึงทำได้เพียงกระจายกำลังปิดล้อมอยู่แต่เพียงรอบนอกป่า

เครดิต เพชรบุรีนิวส์

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม