วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11:34 น.
ตำรวจ191เข้าตรวจค้นบ้านพัก ในหมู่บ้านสหกรณ์ เคหสถาน 4 ถนนเสรีไทย 57 และจับกุมนาย ชณาธิป หรือตุ้ย อายุ 32 ปี ยึดยาอี รวมจำนวนประมาณ 5,000 เม็ด ,เคตามีน ประมาณ 700 กรัมและเคตามีนผสม ผงกาแฟสำเร็จรูป ประมาณ 600 ซอง ,อาวุธปืนสั้น จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 13 นัด,โทรศัพท์มือถือ2 เครื่อง, รถยนต์ 1 คัน,เงินสด 180,000 บาท และทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ
จากการเฝ้าติดตามนายชนาธิป ที่บ้านหลังดังกล่าว จนสามารถจับกุมนายชนาธิป พร้อมของกลางยาเสพติดที่ซุกซ่อนไว้ได้ และเมื่อทำการตรวจค้นภายในบ้านพบว่า นอกจากมียาอีซุกซ่อนไว้รอจำหน่ายแล้ว ยังมีการนำเคตามีนมาผสมกับกาแฟผงสำเร็จรูปและคอลลาเจนผง เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักเที่ยวกลางคืน
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างเก็บซุกซ่อนและส่งยาเสพติดให้กับลูกค้า ตั้งแต่ประเดือน พ.ย. 2565 ต่อมาช่วงต้นปี 2566 ได้เริ่มผสมเคตามีนในกาแฟสำเร็จรูป และคอลลาเจน ตามความต้องการของลูกค้าสายปาร์ตี้ จึงได้ซื้อเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับใช้บด, ผสมและแพ็คยาเสพติดมา และเช่าบ้านหลังนี้ มาเพื่อใช้เป็นสถานที่ผสมยาเสพติด
คดีที่สอง “191 จับเด็กช่าง ย่านมีนบุรี จำหน่ายอาวุธปืนออนไลน์” เป็นการตรวจค้นภายในบ้านพัก ซ.รามคำแหง 182 และนายธนวัฒน์ หรือบังนัด อายุ 17 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนดัดแปลง ชนิดลูกโม่ สีดำ หลายกระบอก รวมถึงอาวุธปืนไทยประดิษฐ์หักลำ จำนวน 1 กระบอก
สืบเนื่องมาจากปัญหาเหตุความขัดแย้งระหว่างสถาบัน ในพื้นที่ของกรุงเทพฯ ตำรวจ 191ได้สืบสวนจนทราบว่ามีนักเรียนช่างกล สถานบันอาชีวะย่านมีนบุรี มีพฤติกรรมลักลอบดัดแปลงอาวุธปืนและจำหน่ายอาวุธปืน ผ่านโซเชียลมีเดีย คือ ทวิตเตอร์, เฟสบุ๊คและกลุ่มไลน์ ซึ่งอาวุธปืนเหล่านี้ อาจนำมาใช้ในการก่อเหตุหรือมีความเกี่ยวข้องกับเหตุความรุนแรงความขัดแย้งระหว่างสถาบันที่เกิดขึ้น จึงได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งจับนายธนวัฒน์ได้ พร้อมของกลาง อาวุธปืนดัดแปลง จำนวน 5 กระบอก อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก
โดยวิธีการจะซื้ออาวุธปืนแบลงค์กัน บีบีกัน ในราคากระบอกละ 4,000 – 5,000 บาท นำมาแปลงให้สามารถใช้กับกระสุนจริงได้ และโพสต์ขายอาวุธปืนผ่านโซเชียลมีเดีย ในราคากระบอก 10,000 – 15,000 บาท เพื่อเอากำไรอีกต่อหนึ่ง มีรายได้ต่อเดือนๆละ 40,000 ถึง 50,000 บาท โดยทำมาแล้วประมาณ 5 ปี จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป