หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบเพิ่มแอดมินแก๊งปลอมเพจตำรวจ CIB หลังแชทลวงผู้เสียหายเล่นพนันออนไลน์ อ้างเป็นวิธีติดตามเงินคืน

วันที่ 2 สิงหาคม 2567 เวลา 11:54 น.


ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบเพิ่มแอดมินแก๊งปลอมเพจตำรวจCIB หลังแชทลวงผู้เสียหายเล่นพนันออนไลน์ อ้างเป็นวิธีติดตามเงินคืน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้ร่วมกันจับกุม นายเอ (นามสมมติ) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” โดยจับกุมได้ที่ ในพื้นที่หมู่ที่ 9 ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือน มิ.ย.66 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ตรวจสอบพบเว็บไซต์แจ้งความออนไลน์ปลอม โดยมีการเลียนแบบเว็บไซต์ แอบอ้างชื่อและใช้ตราสัญญาลักษณ์ของ กองบัญชาการสอบสวนกลาง รวมทั้งหน่วยงานอื่นในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อีกทั้งยังพบว่า กลุ่มมิจฉาชีพได้ใช้วิธียิงแอดโฆษณาผ่านเว็บไซต์สืบค้นข้อมูล (Google Ads) ซึ่งเมื่อมีประชาชนค้นหาคำว่า “แจ้งความออนไลน์” เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำการเพิ่มเพื่อนผ่านแอปพลิเคชันไลน์และสวมรอยเป็นแอดมิน ให้ผู้เสียหายติดต่อพูดคุยกับบุคคลซึ่งอ้างตนว่าเป็นทนายความผ่านแอปพลิเคชันไลน์ โดยจะให้คำปรึกษา ชี้แนะ พร้อมทั้งให้ผู้เสียหายส่งหลักฐานเรื่องที่ต้องการแจ้งความไปให้

จากนั้นทนายความจะส่งเรื่องต่อไปยังฝ่าย IT (information technology) โดยอ้างตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแจ้งกับผู้เสียหายว่าเงินที่ผู้เสียหายถูกโกงไป ได้ถูกนำไปฟอกในแพลตฟอร์มการพนันออนไลน์ต่างประเทศ (เว็บพนัน) พร้อมทั้งมีการทำแผนผังเส้นทางการเงินส่งให้ผู้เสียหายดู อีกทั้งยังแจ้งกับผู้เสียหายอีกว่า สามารถนำเงินมาคืนผู้เสียหายได้ โดยใช้วิธีการแฮก (Hack) เว็บการพนันดังกล่าว จากนั้นคนร้ายจะให้ผู้เสียหายเล่นการพนันตามที่คนร้ายบอก เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะปรากฏยอดเงินในบัญชีเว็บไซต์การพนันของผู้เสียหายเพิ่มขึ้น โดยคนร้ายจะแจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าไปเพิ่ม เพื่อที่จะได้แฮกเงินคืนให้ได้มากกว่าเดิม แต่ท้ายที่สุดเมื่อผู้เสียหายจะถอนเงินออกมา จะไม่สามารถถอนได้ จากนั้นคนร้ายจะบล็อกช่องทางการติดต่อของผู้เสียหาย โดยพบว่าภายในระยะเวลา 15 วัน มีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้กลุ่มคนร้ายมากกว่า 1,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 8 ล้านบาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 14-15 พ.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. พร้อมด้วย กก.สสน.บก.ปอท., บก.ป., บก.ปอศ., บก.ปคบ. บูรณาการร่วมกันตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหา 8 จุด ในพื้นที่ กทม., นนทุบรี, สมุทรสาคร, เชียงราย และสุราษฎร์ธานี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 4 ราย พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางและทรัพย์สิน อาทิเช่น คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, เงินสด, รถยนต์หรู, กระเป๋าแบรนด์เนม, และเครื่องประดับต่างๆ มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือน่าเชื่อว่าหลบหนีอยู่ในประเทศกัมพูชา และประเทศจีน ต่อมาจากการสืบสวนทราบว่า นายเอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า อีกทั้งยังเป็นแอดมินพูดคุยหลอกลวงผู้เสียหายอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ได้เดินกลับเข้ามาในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวและเฝ้าสังเกตการณ์และกดดันอย่างต่อเนื่อง จนผู้ต้องหาทนไม่ไหวตัดสินใจเดินทางเข้ามามอบตัวที่ กก.2 บก.ปอท.

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม