วันที่ 2 สิงหาคม 2567 เวลา 05:23 น.
พ่อค้ากล้วยแขก วิ่งหนีตายขึ้นโรงพักแจ้งความ หลังถูกพวกหลานเมียรุมฟันหัว จ.นนทบุรี
วันที่ 1 ส.ค.67 เมื่อเวลา 16.00 น. นายตะวัน (บุคคลไร้สัญชาติ) อายุ 39 ปี อาชีพพ่อค้าขายกล้วยแขกทอด ได้หอบร่างเลือดโชกทั้งหัวและตัว ไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงฟุตบอลขาสั้นเพียงตัวเดียว เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ว่าถูกหลานของภรรยากับเพื่อนหลานรุมทำร้ายร่างกายจนได้บาดเจ็บ โดยเหตุเกิดที่ห้องเช่าในซอยแห่งหนึ่ง ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี
ภายหลังรับแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยทำแผลห้ามเลือดให้กับนายตะวัน ซึ่งอยู่ในสภาพเลือดท่วมตัว มีบาดแผลถูกของมีคมฟันเข้าที่ศีรษะ หน้าปูดบวม อยู่ในสภาพคล้ายคนเมาสุรา
นายตะวัน เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้นั่งกินเหล้าอยู่ในห้องแล้วเกิดมีปากเสียงกับภรรยาเรื่องที่ตนจะออกไปทำงานไปขายของที่ตลาด แต่ถูกภรรยาห้ามไว้ จึงเกิดมีปากเสียงกัน ทั้งๆ ที่ตนจะกินเหล้าแค่อาทิตย์ละ 2-3 วัน ปรากฎว่าในช่วงที่ตนมีปากเสียงกับภรรยานั้น มีหลานชายภรรยากับเพื่อนหลานอีก 2 คน นั่งอยู่ในห้องด้วย และไม่พอใจที่ตนต่อว่าภรรยาด้วยเสียงดัง จึงเข้ามารุมทำร้ายตนและแย่งมีดที่ตนถือไว้เพื่อป้องกันตัว ฟันใส่ที่หัวตนจนเป็นบาดแผล ส่วนเพื่อนหลานก็รุมชกต่อยตนจนใบหน้าปูดบวม โชคดีที่ลูกชายตนมาช่วยห้ามเอาไว้ ไม่อย่างนั้นตนอาจจะถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิตก็ได้ จากนั้นตนจึงวิ่งหนีตายมาเข้าแจ้งความและขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล
ในเวลาต่อมา ทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้เดินทางมาทำแผลช่วยห้ามเลือดบนศีรษะให้กับนายตะวัน เพื่อเตรียมนำขึ้นรถเพื่อไปส่ง ร.พ.แต่ นายตะวัน ปฎิเสธขอนั่งด้านหน้าไม่อยากนอนไปเพราะกลัวผี
นายสิทธิพงศ์ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี ให้ช่วยมาทำแผลผู้ได้รับบาดเจ็บที่มาแจ้งความอยู่บนโรงพัก จึงเดินทางมาทำแผลให้เบื้องต้นพบว่าถูกฟันที่ศีรษะ 1 แผล และบาดแผลชกต่อยใบหน้าและตามตัว ซึ่งจะได้นำตัวส่งรักษา ร.พ.พระนั่งเกล้า
ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังห้องเช่าที่เกิดเหตุ พบกับนายนอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ลูกชายของนายตะวัน เปิดเผยว่า พ่อของตนชอบดื่มเหล้าเป็นประจำและเวลาเมามักจะชอบถือมีดเดินไปมา ตอนเกิดเหตุพ่อเกิดมีปากเสียงกับแม่อีก และเหมือนจะถือมีดเข้าไปทำร้ายแม่ จึงถูกหลานชายกับเพื่อนที่นั่งอยู่ในห้องไปช่วยห้าม ก่อนจะแย่งมีดมาได้แล้วรุมทำร้ายพ่อของตน ตนจึงเข้าไปห้าม ทำให้หลานกับกลุ่มเพื่อนหยุดทำร้ายพ่อ ก่อนที่พ่อของตนจะวิ่งหนีหายออกจากห้องไป โดยที่ตนก็ไม่รู้ว่าพ่อของตนหายตัวไปไหน อย่างไรก็ตามหลังตนทราบว่าพ่อถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว ตนก็จะตามไปเยี่ยมดูแลต่อไป