วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เวลา 14:17 น.
วันนี้ (1 ส.ค. 67) นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นำสื่อมวลชน เข้าศึกษาดูงานการควบคุมดูแลตามมาตรการการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่มีความหลากทางเพศ ตามโครงการ "สื่อมวลชนสัญจร Press Tour เพื่อศึกษาดูงานการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังข้ามเพศ" พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ และโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ ณ เรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
กรมราชทัณฑ์ จัดโครงการสื่อมวลชนสัญจร (Press Tour) เพื่อศึกษาดูงานการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังข้ามเพศ มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ บทบาท ภารกิจของกรมราชทัณฑ์เกี่ยวกับมาตรการการควบคุมดูแลผู้ต้องขังที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยในครั้งนี้เป็นการเชิญสื่อมวลชนในแขนงต่าง ๆ ได้แก่ สถานิโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ และออนไลน์ ร่วมเข้าศึกษาดูงาน ภายในแดน 1 เรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งภายในแดนมีผู้ต้องขังทั้งสิ้น จำนวน 1,085 คน โดยเป็นกลุ่มผู้ต้องขังข้ามเพศ จำนวนทั้งสิ้น 64 คน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
ได้แก่ ประเภทที่ 1 คือ ผู้ต้องขังข้ามเพศที่แปลงเพศโดยสมบูรณ์แล้ว จำนวน 14 คน ประเภทที่ 2 คือ ผู้ต้องขังข้ามเพศที่ยังไม่แปลงเพศแต่ลักษณะทางกายภาพไม่เป็นไปตามเพศกำเนิด เช่นเสริมหน้าอก จำนวน 9 คน และประเภทที่ 3 คือ ผู้ต้องขังข้ามเพศที่ยังไม่แปลงเพศและไม่ได้มีกายภาพที่เปลี่ยนแปลงไป เพียงแต่พิจารณาแล้วเห็นควรให้มีการแยกขัง เนื่องจากเสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศ จำนวน 41 คน
ทั้งนี้ เรือนจำได้ดำเนินการตามมาตรฐานการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่มีความหลากหลายทางเพศ (SOPs) โดยยึดถือหลักการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังข้ามเพศโดยไม่เลือกปฏิบัติและจะต้องปฏิบัติบัติต่อผู้ต้องขังเหล่านี้เช่นเดียวกันกับผู้ต้องขังทั่วไป รวมถึงสิทธิการคุ้มครองอย่างเท่าเทียมกันทางกฎหมาย ตลอดจนการพัฒนาฤตินิสัยที่ผู้ต้องขังจะได้รับทั้งด้านร่างกายและจิตใจ อาทิ การจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์และความสนใจของผู้ต้องขังข้ามเพศ โปรแกรมและกิจกรรมที่ส่งเสริมการเคารพนับถือตนเอง และการได้รับการเคารพจากผู้อื่น ตลอดจนส่งเสริมกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความหลากหลาย ผู้ต้องขังอื่นๆ เพื่อปลูกฝังค่านิยมเกี่ยวกับการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และการไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีเพศวิถีและอัตลักษณ์ทางเพศแบบใดก็ตาม และต้องไม่ลืมที่จะคำนึงถึงความปลอดภัย ความเปราะบางและความเป็นส่วนตัวของผู้ต้องขังกลุ่มนี้
กรมราชทัณฑ์ ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ควบคุม ดูแล และพัฒนาพฤตินิสัยผู้ก้าวพลาด โดยได้ยึดแนวทางปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกรายอย่างเท่าเทียมและเหมาะสมตามหลักการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและหลักทัณฑ์วิทยาโดยไม่เลือกปฏิบัติ โดยเฉพาะผู้ก้าวพลาดที่มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อให้เขาเหล่านี้จะได้รับการพัฒนาพฤตินิสัย ทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมที่จะกลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติสุข และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน