หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบ "ชิต ท่าศาลา" แก๊งทวงหนี้โหดเครือข่ายเดียวกับที่รุมทำร้ายยายวัย 73 ปี

วันที่ 30 กรกฎาคม 2567 เวลา 12:42 น.


สืบนครบาล ร่วมกับ นักสืบ TOP G  ได้ออกลาดตระเวนออนไลน์จนทราบว่า มีคนร้าย ฉายา "ชิต ท่าศาลา" หนึ่งในแก๊งทวงหนีโหด ที่ร่วมกับพวกอีก 2 คน ก่อเหตุทวงหนี้โหด ทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ เตะประตูบ้าน ปิดสวิทช์ไฟฟ้าบ้านลูกหนี อีกทั้งยังล็อกประตูขังลูกหนีไม่ให้ออกจากบ้าน โดย ศาลอาญามีนบุรี ได้อนุมติหมายจับ ฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินอันมีลักษณะเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอันตราที่กฎหมายกำหนดไว้ , ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ ขู่เข็ญฯ”

ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่านายชิต ท่าศาลา เป็นแก๊งค์ทวงหนีโหดแก๊งเดียวกับแก๊งทวงหนี้ที่รุมทำร้ายยายวัย 73 ท้องที่ สน.โชคชัย ซึ่งก่อเหตุและถูกจับกุมตัวได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณ ภายในโรงแรม ถ.เคหะร่มเกล้า เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ขณะกำลังจะขับรถยนต์ส่วนตัวหลบหนีออกจากโรงแรมซึ่งหลบมาเช่าพักรายวัน

ในชั้นจับกุม  "ชิต ท่าศาลา”  ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เดิมทีประกอบอาชีพทำสวนผลไม้ในพื้นที่อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ต่อมาช่วงปี 2565 ตนขายที่ที่ตนทำสวนผลไม้ได้เงินมาก้อนนึง จึงมาปล่อยเงินกู้ โดยมีนายต้า และนายเขต ผู้ต้องหาซึ่งยังหลบหนีที่ร่วมก่อเหตุด้วยกันเป็นทีมงาน ตระเวนปล่อยเงินกู้ย่านมีนบุรี รามอินทรา ร่มเกล้า อ่อนนุช โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาท ต่อวัน กับผู้ที่มาขอกู้ยืมเงิน โดยทั่วไปจะมีผู้มาขอยืมกู้ยืมเงินครั้งละประมาณรายละ 5,000-6,000 บาท  ซึ่งตน นายต้า นายเขต จะเป็นคนไปตามทวงเงินกับผู้กู้ยืม ในวันเกิดเหตุอ้างว่านายต้า และนายเขต เป็นคนใช้ความรุนแรงกับลูกหนี้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อในคำให้การ

ทั้งนี้ จากการสืบสวน "ชิต  ท่าศาลา” เป็นแฟนของน้องสาว ของนาย เคน หนึ่งในแก๊งทวงหนี้ที่รุมทำร้ายยายวัย 73 ท้องที่ สน.โชคชัย ที่ถูกจับกุมก่อนหน้า ประกอบกับในทางการสืบสวนทราบว่าหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ด้วยกันก่อนไหวตัวหนีมาหลบพักในโรงแรมที่ถูกจับกุม เนื่องจากมีคนส่งข่าวให้หลบหนี แต่ก็มาจนมุมชุดสืบสวนขณะกำลังหลบหนีออกจากโรงแรมที่พักในที่สุด

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม