วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 เวลา 16:01 น.
ดีอี เตือน ข่าวปลอม “ปปง. เปิดเพจแจ้งความ รับเงินคืนจากคดีออนไลน์” พบ “โจรออนไลน์” ใช้เป็นช่องทางหลอกลวงข้อมูล-หลอกโอนเงิน
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์รายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุด อันดับที่ 1 เรื่อง “ปปง. เปิดเพจแจ้งความออนไลน์ ชื่อว่า ศูนย์รับเรื่อง-ลงทะเบียนและตรวจสอบเพื่อรับเงินคืนจากคดีออนไลน์” รองลงมาคือเรื่อง “ปปง. เปิดให้ลงทะเบียนรับเงินคืน ผ่านเพจศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ AOC” โดยขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หวั่นสร้างความเสียหายต่อข้อมูลส่วนบุคคล ทรัพย์สิน และส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะโฆษกกระทรวงฯ กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 19 - 25 กรกฎาคม 2567 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 851,933 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 248 ข้อความ
สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 204 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 43 ข้อความ และผ่านช่องทาง Facebook จำนวน 1 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 209 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 102 เรื่อง โดยในจำนวนนี้มีข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุด จำนวน 10 อันดับ ได้แก่
อันดับที่ 1 : เรื่อง ปปง. เปิดเพจแจ้งความออนไลน์ ชื่อว่า ศูนย์รับเรื่อง-ลงทะเบียนและตรวจสอบเพื่อรับเงินคืนจากคดีออนไลน์
อันดับที่ 2 : เรื่อง ปปง. เปิดให้ลงทะเบียนรับเงินคืน ผ่านเพจศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ AOC
อันดับที่ 3 : เรื่อง เพจกระทรวงยุติธรรมปรึกษากฎหมาย รับเรื่อง ร้องเรียน ร้องทุกข์ เป็นเพจที่กระทรวงยุติธรรมจัดทำขึ้น
อันดับที่ 4 : เรื่อง กระทรวงยุติธรรมเปิดเพจ Rescue crime เพื่อแจงขั้นตอน ยื่นคุ้มครองสิทธิ ขอเงินคืน
อันดับที่ 5 : เรื่อง พม. เปิดเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ตรวจสอบ-ลงทะเบียนเพื่อรับเงินคืนจากคดีออนไลน์
อันดับที่ 6 : เรื่อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ผู้ลงทุนโอนเงินเพื่อขอรับรองหรือรับประกันวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์
อันดับที่ 7 : เรื่อง กรมการจัดหางาน เปิดช่อง TikTok @dy18ozezoiod
อันดับที่ 8 : เรื่อง ลงทะเบียนรับทรัพย์สินคืนจากอาชญากรรมออนไลน์ ผ่านเพจ ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ – ETDA
อันดับที่ 9 : กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเปิดเพจเฟซบุ๊กใหม่ เพื่อรับสมัครงาน
อันดับที่ 10 : เรื่อง TikTok ศูนย์มาตรฐานฝีมือแรงานโฮมโปร สร้างช่างมืออาชีพตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ
“เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่เกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ จาก 10 อันดับ ข้างต้น พบว่าทั้งหมดเป็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานรัฐ ซึ่งทำหน้าที่การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ และการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอันดับ 1 และ 2 เป็นข่าวปลอมที่แอบอ้างหน่วยงาน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลจาก ป.ป.ง.พบว่า เพจและคลิปสั้นที่มีการโพสต์ดังกล่าวเป็นข้อมูลปลอม ซึ่งมิจฉาชีพได้ตัดต่อคลิปจากข่าวที่สื่อมวลชนเผยแพร่ และนำมาเพิ่มเติมข้อความ เพื่อหลอกผู้เสียหายจากคดีฉ้อโกงให้หลงเชื่อส่งข้อมูลและโอนเงินให้ตามที่อ้างว่า จะดำเนินเรื่องช่วยเหลือ โดย ป.ป.ง. ไม่เคยมีการเปิดให้ผู้เสียหายทุกรายคดี ยื่นคำร้องผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทางแต่อย่างใด ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ หรือแชร์ข้อมูล ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลส่วนตัวบุคคล และทรัพย์สิน หรือหากมีการแชร์ เผยแพร่ต่อๆกันไป อาจกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมได้” นายเวทางค์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน ส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด
สามารถแจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.) | Line ID: @antifakenewscenter | เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์