หน้าแรก > ภูมิภาค

มาเฟีย! วงการสักยันต์ เปิดร้านสักทับที่ ยกพวกรุมทำร้าย กรรมการตัดสินประกวดลายสัก บาดเจ็บสาหัส

วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 เวลา 20:51 น.


เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 ก.ค. 67 นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายวสันต์ อายุ 45 ปี และนายสกาย อายุ 33 ปี ทั้งสองมีอาชีพ เป็นช่างสักลาย เดินทางเข้าติดตามความคืบหน้าคดีทำร้ายร่างกาย ที่สภ.บางใหญ่

สืบเนื่องจากวันที่ 28 เม.ย. 2567 นายวสันต์  ได้เดินทางมาร่วมงานแข่งขันสักลาย ที่ตลาดบางใหญ่ซิตี้ โดยมาในฐานะคณะกรรมการตัดสิน การประกวดลายสัก จากนั้นช่วงเวลา 16.30 น. นายวสันต์ เสร็จจากงานและกำลังจะเดินทางกลับ โดยขณะเดินไปที่รถยนต์  ได้มีนายพนิษฐ์นันท์  พร้อมพวกอีก 5 คน เดินมาหานายวสันต์  และนายพนิษฐ์นันท์ ได้เปิดประตูรถและทำร้ายร่างกายนายวสันต์

โดยชกเข้าที่ใบหน้า ถูกบริเวณดั้งจมูก ต่อมากลุ่มของผู้ต้องหาได้เดินไปเปิดประตูรถอีกฝั่งและรุมทำร้ายนายวสันต์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า เบ้าตาเขียวช้ำ ปากแตก จากนั้นได้ชักปืนขึ้นมา พร้อมกับพูดจาข่มขู่ ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายกันไป ผู้เสียหายจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความ ที่สภ.บางใหญ่ พร้อมตรวจร่างกาย พบว่ากระดูกดั้งจมูกแตก มีแผลฉีกขาดที่ปาก และเบ้าตาช้ำ

โดยภาพจากกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุได้ โดยในภาพจะเห็นผู้เสียหายสวมเสื้อแขนยาวสีขาว สวมหมวกแก๊ปสีขาวกำลังเดินไปขึ้นรถยนต์ และได้ปิดประตู ระหว่างนั้น จะเห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นชายฉกรรจ์ ประมาณ 7 คนเดินตามมาที่รถยนต์ของผู้เสียหาย โดยชายเสื้อแดงได้เดินไปเปิดประตูรถและก้มไปทำร้ายร่างกาย ก่อนที่ชายเสื้อดำอีกคนจะเดินอ้อมไปที่ประตูรถอีกฝั่งแล้วเปิดเข้าไปทำร้าย ผ้านไปสักครู่มีชายคนที่ 8 เดินตามมายืนดูอยู่ห่างๆ ซึ่งกลุ่มชายดังกล่าวล้อมรถอยู่ประมาณ 5 นาทีก่อนที่จะเดินออกไป

ภาพจากกล้องมือถือของพลเมืองดี บันทึกเหตุการณ์ได้ เป็นภาพกลุ่มชายดังกล่าวยืนอยู่ที่บริเวณท้ายรถ โดยมีชายเสื้อแดงและชายเสื้อดำเปิดประตูรถผู้เสียหายยืนพูดคุยอะไรบางอย่าง ซึ่งพลเมืองดีได้หยุดถ่ายไปก่อนหน้าเพราะเกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะเข้ามาทำร้าย

จากการสอบถามนายวสันต์ คาดว่า สาเหตุที่ถูกรุมทำร้ายนั้น คิดว่าน่าจะเรื่องจากที่ตนจะเปิดร้านสักที่ห้วยขวาง และ สุขุมวิท และได้ลงประกาศหาสถานที่  ซึ่งก็มีน้องสกายที่โดนข่มขู่ เขาคอมเม้นท์แจ้งตนมาว่าใกล้บ้านเขา เดี๋ยวเขาช่วยหา ซึ่งน้องก็ได้รับข้อความจากคนที่ทำร้ายตนว่ามายุ่ง สำหรับในวันเกิดเหตุ ตนไม่ทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมาทำอะไรที่งาน แต่กลุ่มเขาก็เป็นช่างสักเหมือนกัน ระหว่างที่เขาเปิดประตูรถ ตนได้ยินเขาด่าตนเท่านั้น

จากนั้นก็ชกมาที่ตนทันที  โดยมีชายสองคนเข้ามารุมชกต่อยตน จนตนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ขอบตา จมูก และศีรษะ  ที่เจ็บหนักสุดคือจมูกกระดูกยุบลงไป ในกลุ่มที่เข้ามาทำร้ายตนทั้ง 7 คน ตนรู้จักแค่ 3 คนเคยเห็นหน้า ผ่านมา 3 เดือนเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่ารอส่งอัยการ พร้อมกับประสานชุดสืบสวนไปแล้ว

นายวสันต์ กล่าวต่อว่า ที่ตนมาร้องเพจกล้าที่จะก้าววันนี้ เพราะคดีไม่ค่อยคืบหน้า คนร้ายยังออกงานอยู่ และตนต้องบินไปต่างประเทศบ่อยครั้ง ทำให้ตนเสียโอกาส หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกมาสอบสวน นอกจากนี้ เขายังลอยนวลไปข่มขู่รุ่นน้องในวงการสัก ปล่อยคดีนานไป จะไม่ปลอดภัย เพราะตนอาศัยอยู่กับลูก 2 คน และตนต้องเดินทางคนเดียวตลอดทำให้เกิดความระแวง

ซึ่งคนก่อเหตุยังพูดว่าไม่มีใครทำอะไรเขาได้ บุคลิกเขาในแวดวงการสักเหมือนเป็นมาเฟีย มีการพกอาวุธเข้าไปในห้างประจำ นอกจากนี้เขายังมีประวัติเคยก่อเหตุที่ สน.สุทธิสาร น้องคนที่จะเปิดร้านสัก ถูกทำร้ายจนเลิกทำร้านไป คดีที่สี่แยกบ้านแขก คดีทำร้ายตน คดีข่มขู่น้องสกายที่ห้าง และคดีที่ จ.กาญจนบุรี ทางสมาคมช่างสัก ก็เป็นห่วงเรื่องนี้สอบถามตนมา เขาทำตัวเหมือนเป็นผู้มีอิทธิพลต้องฟังเขา
   
ส่วนนายสกาย กล่าวว่า วันที่ 11 พ.ค. 67 ตนไปดูหนังกับพี่ชาย ซึ่งผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ในพื้นที่โรงหนังดังกล่าวอยู่ก่อนแล้ว จากนั้นได้มีการมาพูดคุยกันโดยบอกตนว่าไปยุ่งกับเรื่องนายวสันต์ ทำไม ก็มีการปัดมือตน แล้วบอกกว่าทำไมไม่จบ จนเขามีการชักมีดออกมา ตนก็พยายามจะไม่มีเรื่อง แต่เขาได้โทรเข้ามาหาตนให้ไปเจอกับเขาที่ลานจอดรถ พร้อมกับพูดกับตน ว่าไม่ใช้มีดกับปืนก็ได้ แต่ตนไม่ได้ไปเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย หลังจากดูหนังเสร็จ พี่ชายได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ซึ่งตำรวจได้มารับตนไปแจ้งความไว้แล้วในข้อหา ข่มขู่ด้วยอาวุธมีด

นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์  กล่าวว่า วันนี้ตนมาติดตามคดีที่มีผู้ร้องเรียนเข้ามาว่าถูกทำร้ายร่างกายและข่มขู่ด้วยอาวุธปืน ซึ่งบุคคลดังกล่าวก่อเหตุมาหลายพื้นที่ เป็นบุคคลอันตราย นอกจากนี้ยังออกรายการทีวีเพื่อเพิ่มช่องทางให้ตน ซึ่งตนกำลังรวบรวมผู้เสียหายจากหลายๆพื้นที่ เพื่อนำเรื่องร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินการ และถ้าใครที่ได้รับความเดือดร้อนจากบุคคลนี้ให้แจ้งเข้ามาที่ตนได้ ตนจะได้รวบรวมส่งดำเนินคดีไปพร้อมกัน

นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหาเคยมีประวัติทำร้ายร่างกายผู้อื่นในพื้นที่ สน.บุปผาราม ซึ่งมีการเคลีย์กันไปเรียบร้อยแล้ว, มีคดีทำร้ายร่างกายที่ สน.สุทธิสาร สน.พหลโยธิน สภ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งผู้เสียหายยังได้รับแจ้งจากคนในวงการช่างสัก ว่าผู้ก่อเหตุเคยทำร้ายร่างกายช่างสักที่ จ.ภูเก็ต แต่ผู้เสียหายหวาดกลัวไม่กล้าแจ้งความ แต่ได้ส่งภาพมาให้ผู้เสียหายเป็นหลักฐานยืนยัน  

เบื้องต้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางใหญ่ พบว่าพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ จ.615/2567 ,616 และ 617 ลงวันที่ 16 ก.ค 67 ให้จับกุมนาย พนิษฐ์นันท์ , นาย ณัฐพงศ์ , นายวิรัชย์พล และพวก โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ, ร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส, มี ใช้ อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้อนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืน ติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม