หน้าแรก > ภูมิภาค

ฝ่ายปกครองนราธิวาส จับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายสินค้าหนีภาษีในพื้นที่สุไหงโก-ลก พบของกลางกว่า 400 รายการ

วันที่ 22 กรกฎาคม 2567 เวลา 22:57 น.


ฝ่ายปกครองนราธิวาส จับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายสินค้าหนีภาษีในพื้นที่สุไหงโก-ลก พบของกลางกว่า 400 รายการ ด้านผู้ว่าฯ นราธิวาส เผยได้รับความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสจากพี่น้องประชาชน เน้นย้ำ หากพบการกระทำผิดทุกรูปแบบแจ้ง สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ทันที

(21 ก.ค. 67) ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า จังหวัดนราธิวาสได้จับกุมผู้ต้องหาลักลอบนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้ผ่านพิธีศุลกากร พร้อมตรวจยึดสิ่งของ ว่า 400 รายการ และเอกสาร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งอื่น ๆ ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้า ซึ่ง ตนได้มอบหมายให้ นายสุวิทย์ นาคเป้า ป้องกันจังหวัดนราธิวาส นายอัจฉริยะ เพียรทอง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษจังหวัดนราธิวาส นายดานิยาน ปริญภัทรกุล ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดนราธิวาส นายเอกวัตร ศรีเทศ ผบ.ร้อย อส.จ.นธ. และนางสาวพิมพ์สิริ พลภักดี ผู้ช่วยจ่าจังหวัดนราธิวาส นำกำลัง อส. ชุดปฏิบัติการพิเศษจังหวัดนราธิวาส อส. สังกัดร้อย อส.จ.นธ และ อส. สังกัด ร้อย บก.บร.จ.นธ. เข้าตรวจสอบตามหมายค้นศาลจังหวัดนราธิวาสที่ 44 / 2567 ณ โกดังแห่งหนึ่ง อ.สุไหงโก-ลก ตามข้อร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ ว่า มีการลักลอบจำหน่ายสินค้าที่ยังมิได้ผ่านพิธีศุลกากร จังหวัดนราธิวาส โดยที่ทำการปกครองจังหวัดนราธิวาส กลุ่มงานความมั่นคง จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนราธิวาส ออกทำการสืบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นเวลา 2 เดือน จนเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าภายในโกดังหลังดังกล่าวได้มีสิ่งของผิดกฎหมาย จึงได้ดำเนินการขอหมายค้นจากศาลจังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจค้นและยึดสิ่งของ เอกสาร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งอื่น ๆ ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือ พบสิ่งของที่ใช้เป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน หรือของซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาเป็นความผิด หรือ ได้ใช้ หรือ ตั้งใจจะใช้ในการกระทำผิด

ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า โกดังดังกล่าว ตั้งอยู่ ณ บริเวณ ถนนสายทอง 4 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมี นายแว (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี แสดงตนเป็นผู้จัดการร้าน โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษจังหวัดนราธิวาส ได้ทำการแสดงหมายค้น พร้อมอ่านหมายค้นให้บุคคลดังกล่าวฟัง และแสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจ ก่อนจะทำการตรวจค้นจนพบของกลางจำนวน 408 รายการ โดยของกลางทั้งหมดพบอยู่ภายในบริเวณโกดังหลังดังกล่าวภายหลังจากการตรวจนับของกลางทั้งหมด เจ้าหน้าที่ได้ขอให้บุคคลดังกล่าวนำเอกสารหลักฐานแสดงถึงการเสียภาษีอย่างถูกต้องของสินค้ารายการต่าง ๆ ภายในโกดัง แต่บุคคลดังกล่าวไม่สามารถนำมาแสดงได้

“เจ้าหน้าที่ จึงได้แจ้งสิทธิให้นายแว (นามสมมุติ) ผู้ถูกจับกุมทราบ และข้อกล่าวหา 5 ข้อ ดังนี้  
1. ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ๆ ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร ตาม มาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 
2. นำเข้าซึ่งอาหารเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม 15 แห่ง พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 
3. มีอาหารที่ผลิตเพื่อจำหน่าย นำเข้าเพื่อจำหน่ายหรือจำหน่ายโดยไม่มีฉลาก เงื่อนไข และวิธีแสดงฉลากตลอดจนหลักเกณฑ์ และวิธีโฆษณาในฉลาก ตาม มาตรา 6 แห่ง พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 
4.นำเข้าเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ ตาม มาตรา25 (1) มาตรา26 (1) แห่ง พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 
5.ขายเครื่องสำอาง ที่มิได้จดแจ้งต่อผู้รับแจ้ง ขายเครื่องสำอางที่มีฉลากไม่ถูกต้อง ตาม มาตรา 32 (1) และ (4) แห่ง พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 
ทั้งนี้ ผู้ถูกจับกุมทราบข้อกล่าวหาดี และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวผู้ถูกจับกุมพร้อมของกลางและเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สุไหงโกลก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าว

ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวต่อว่า กล่าวทิ้งท้ายว่า จังหวัดนราธิวาส ได้บูรณาการทุกภาคส่วนดำเนินการขับเคลื่อนตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่มุ่งมั่นในการจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล การป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิดอย่างต่อเนื่อง และขอกำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เร่งยกระดับความเข้มข้นในการลาดตระเวนเสาะหาสิ่งผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุข มีชุมชนที่น่าอยู่ มีสังคมที่มีความสุข บ้านเมืองมีความมั่นคงสงบเรียบร้อย ประชาชนได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปราศจากสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันป้องกันและแก้ไขอย่างต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสการกระทำผิด สามารถแจ้งข้อมูล หรือ ร้องเรียน ร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง 
 

 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม