22 กรกฎาคม 2567 ประธานาธิบดี โจ ไบเดนของสหรัฐฯ ได้ยุติการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอีกสมัย และสนับสนุนให้รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส สืบทอดตำแหน่งต่อจากเขาในนามพรรคเดโมแครต ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะพลิกโฉมการแข่งขัน ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด หวังให้พลิกกลับมานำคู่แข่ง

ไบเดน ในวัย 81 ปี กล่าวในแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า การที่ได้รับหน้าที่ดังกล่าวถือเป็น "เกียรติอย่างยิ่ง" แต่การถอนตัวของเขานั้น "เป็นผลประโยชน์สูงสุดของพรรคและประเทศชาติ" ซึ่งประกาศดังกล่าวถือเป็นการปิดฉากช่วงเวลาอันวุ่นวายในวงการการเมืองของสหรัฐฯ ซึ่งเริ่มต้นจากการโต้วาที กับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน นายไบเดนกล่าวว่าเขาจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจนถึงเดือนมกราคม

ขณะที่ นาง แฮร์ริส วัย 59 ปี กล่าวว่าเธอรู้สึก "เป็นเกียรติ" ที่ได้รับการรับรอง และเสริมว่า "เธอสมควรได้รับชัยชนะในการเสนอชื่อครั้งนี้" และจะนำประเทศเป็นหนึ่งเดียวในการต่อต้านทรัมป์ พร้อมระบุอีกว่า "เรามีเวลาอีก 107 วันก่อนถึงวันเลือกตั้ง เราจะต่อสู้ร่วมกัน และเราจะชนะไปด้วยกัน" โดยจนถึงขณะนี้ อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน และ ฮิลารี คลินตัน ที่ลงแข่งขันกับทรัมป์ในการเลือกตั้งปี 2016 ได้ออกมาสนับสนุนแฮร์รีส ขณะที่อดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา บอกว่าพรรคเดโมแครต จะเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็นตัวแทนพรรค แต่ไม่ได้ประกาศสนับสนุนแฮร์รีส หรือบุคลใดเป็นพิเศษ

แม้ว่านางแฮร์ริสจะได้รับการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญหลายคนในพรรค แต่เธอยังไม่ได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการ และอาจจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึงการประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรคเดโมแครตในเดือนสิงหาคมนี้

ในระหว่างนี้ ทรัมป์ที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งก็ได้ทำคะแนนนำในผลสำรวจและได้รับการยืนยันให้เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกันในงานประชุมใหญ่ของพรรคในสัปดาห์นี้  5 วันหลังรอดชีวิตจากการถูกลอบสังหาร

หลังจากการตัดสินใจของนายไบเดน เขาประกาศว่าประธานาธิบดี "ไม่เหมาะสมที่จะลงสมัคร... และแน่นอนว่าไม่เหมาะสมที่จะรับตำแหน่ง" สมาชิกพรรครีพับลิกันระดับสูงคนอื่นๆ เห็นด้วย และเรียกร้องให้นายไบเดนออกจากทำเนียบขาวทันที ซึ่งไม่ใช่แค่ผู้สมัครพรรคเดโมแครตเท่านั้น

ที่มา : BBC