หน้าแรก > การเมือง

รัฐบาลเตือน! ครอบครอง "ไซยาไนด์" โดยไม่ได้รับอนุญาต คุกไม่เกิน 2 ปี - ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

วันที่ 18 กรกฎาคม 2567 เวลา 08:59 น.


วันที่ 18 ก.ค. 2567 น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นกลางกรุงและมีการตรวจพบสารไซยาไนด์ที่เกิดเหตุว่า จริง ๆ แล้ว สารไซยาไนด์ หาได้ง่ายและพบได้ในชีวิตประจำวัน เพราะมีสารชนิดนี้อยู่ในผัก ผลไม้ เช่น ข้าวเจ้า ข้าวสาลี พีช มะม่วง 

ส่วนในทางอุตสาหกรรม ไซยาไนด์ใช้ในการผลิตไนล่อน และพบมากที่สุดในยาฆ่าแมลง มีพิษร้ายแรงมาก เมื่อรับสารพิษเข้าไปแม้เพียงนิดเดียว อวัยวะในระบบประสาทส่วนกลาง ตับ ไต และระบบหัวใจจะได้รับผลกระทบทันที

โดยความรุนแรงของอาการขึ้นกับปริมาณของสารพิษ ระยะเวลา และวิธีการที่ได้รับเข้าสู่ร่างกาย ทั้งจากการกิน การสูดดม หรือการดูดซึมผ่านผิวหนัง หากได้รับไซยาไนด์เข้าไปในปริมาณมาก อาการมักจะเกิดขึ้นในทันที เริ่มจากปวดศีรษะ ใจสั่น หน้าแดง หายใจติดขัด ชัก วูบหมดสติ หยุดหายใจ และอาจมีภาวะหัวใจหยุดเต้นได้ภายในเวลา 10 นาที หรือหากได้รับในปริมาณเล็กน้อยต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน จะทำให้กดการทำงานของระบบประสาทและการหายใจ เกิดอาการปวดศีรษะ ง่วงซึม คลื่นไส้ อาเจียน ใจสั่น และอาจมีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้นตามมา เช่น รูม่านตาขยาย ตัวเย็น อ่อนแรง หายใจช้า เป็นต้น หากไม่ได้รับการรักษาเป็นเวลานาน อาจทำให้เสียชีวิตได้ในที่สุด

ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรม ขอเตือนประชาชนว่า ไซยาไนด์จัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 23 ประกอบมาตรา 73 ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยมิได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม