“เกณิกา” เผยข้อมูลติดตามผู้ป่วยบำบัดยาเสพติด ไม่เสพซ้ำกว่า 5 หมื่นคน ตามนโยบายรัฐบาลเศรษฐา “ปราบปราม รักษา ฟื้นฟู ดูแล” ให้โอกาสผู้เสพคืนสู่สังคมอย่างมีคุณภาพ

(17 ก.ค. 67) น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดเร่งด่วน “ปราบปราม รักษา ฟื้นฟู ดูแล” โดยเฉพาะการแยกผู้เสพออกมารับการบำบัด รักษา และส่งคืนชุมชนเมื่อมีความพร้อม ผ่านกระบวนการให้แน่ใจว่าจะไม่กลับไปเสพยาอีก ดังนั้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการสาธารณสุข จึงได้มีประกาศนโยบายกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2567-2568 เกี่ยวกับการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า จากผลการดำเนินงานการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ข้อมูล ณ วันที่ 14 ก.ค. 67 จำนวนผู้เข้ารับการคัดกรองสะสม รวม 128,340 ราย ซึ่งจากแนวโน้ม พบว่า มีจำนวนมากขึ้นประมาณร้อยละ 60 ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.67 เป็นต้นมา ในส่วนของจำนวนผู้เข้ารับการบำบัดสะสมมี 123,038 ราย จำแนกตามกลุ่มสีได้เป็น กลุ่มสีเขียว คือ ผู้ป่วยยาเสพติดที่ไม่มีอาการทางจิตเวชร่วมด้วย ร้อยละ 79 กลุ่มสีเหลือง คือ ผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวชร่วม ด้วย แต่อยู่ในระยะอาการสงบ ร้อยละ 3 กลุ่มสีส้ม คือ ผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวชร่วมด้วย อยู่ในระยะอาการกำเริบ ร้อยละ 5 และกลุ่มสีแดง ผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวชร่วมด้วยและกำลังแสดงอาการอาละวาด คลุ้มคลั่ง ร้อยละ 13

“ผลการติดตามเมื่อพ้นระยะบำบัด ได้รับการติดตามครบตามเกณฑ์ภายใน 1 ปี จำนวน 79,210 คน จากทั้งหมด 141,008 คน คิดเป็นร้อยละ 56 และมีผลงาน คืนคนดีสู่สังคม คือผู้ที่ได้รับการติดตามครบและไม่กลับไปเสพซ้ำ จำนวน 55,649 คน ซึ่งกลไกการขับเคลื่อนด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด มีโครงสร้างตั้งแต่ คณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ผ่านคณะอนุกรรมการระบบ บำบัด ฟื้นฟู และติดตามผู้ติดยาเสพติด ซึ่งจะทำงานระดับจังหวัดด้วยคณะทำงานบูรณาการ คัดกรอง บำบัดรักษา ฟื้นฟูสมรรถภาพ และฟื้นฟูสภาพทางสังคมระดับจังหวัด  และยังไปถึงระดับอำเภอ” น.ส.เกณิกา กล่าว

น.ส.เกณิกา กล่าวทิ้งท้ายว่า การแก้ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรี เร่งสั่งการให้ทุกภาคส่วนเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามอย่างเด็ดขาด โดยตั้งเป้าให้ปัญหายาเสพติดลดลงให้ได้ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ การบำบัดผู้เสพและฝึกอาชีพก่อนคืนสังคม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข อยู่หนึ่งในการทำงานบูรณาการร่วมกันให้เห็นผลภายใน 90 วัน เพื่ออนาคตของผู้ติดยาเสพติด จะได้คืนกลับสู่สังคมอย่างมีคุณภาพ