วันที่ 17 กรกฎาคม 2567 นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย ระบุว่า การทำงานของรัฐบาลและส่วนราชการนั้นเป็นไปอย่างชะล่าใจ ในช่วงเริ่มต้นที่มีการระบาดและเพิ่งเริ่มดำเนินการจริงจังในปีที่ผ่านมา ด้วยการปล่อยอวนรุนในการร่วมกำจัดปลาหมอสีคางดำในลำคลอง แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดคือเอาไม่อยู่ ทำให้มีการระบาดของปลาหมอสีคางดำในหลายจังหวัด "ถ้าวันนี้แก้ปัญหาอย่างจริงจังก็เชื่อว่ายังสามารถควบคุมการระบาดได้ มีวิธีทางวิทยาศาสตร์ใช้กลไกการตลาดจัดการ รวมถึงระบบนิเวศตัวผู้ล่าที่สูงกว่า"

"แต่ทั้งหมดจะเข้มแข็งได้คือฝ่ายนโยบายต้องเข้มแข็งและดำเนินมาตรการอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่าในภาคใต้นั้นกำลังจะเข้าสู่ฤดูฝน อาจจะทำให้เกิดการระบาดของปลาหมอคางดำในวงกว้างมากกว่านี้ เนื่องจากสถานการณ์น้ำหลากในช่วงระยะเวลาที่เหลืออีก 2-3 เดือน จึงต้องเร่งมาตรการกำจัดปลาหมอสีคางดำอย่างเร่งด่วน"
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เตรียมยกระดับการทำลายปลาหมอสีคางดำ เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อไม่ให้มีการขยายพันธุ์ทำลายสัตว์น้ำพื้นถิ่น

โดยทางกระทรวงเกษตรฯอยู่ระหว่างหาต้นตอการระบาดของปลาหมอสีคางดำ แต่เนื่องจาก หลักฐานยังไม่ชัดเจนพอ ว่าเกิดจากการทำเข้าเพื่อวิจัยหรือมีการลักลอบนำเขัา
ล่าสุดที่ลามไปยังแถวแขวงมักกะสัน มองว่าตอนนี้ การแพร่ระบาดได้กระจายไปทั่วแล้ว ถือว่าเป็น ปีศาจปลาที่ทนน้ำทนแดดทนฝน และขยายพันธุ์ได้รวดเร็วมาก ถือว่าเป็นภัยพิบัติที่ต้องแก้ไขโดยเร็วที่สุด ซึ่งมีแผนจะประกาศเป็นวาระแห่งชาติ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ จะต้องแก้ไขอย่างไร ถือว่าเป็นสำคัญ รวมถึงจะมีการสั่งห้ามการนำเข้าปลาสายพันธุ์แปลกเข้ามาในประเทศไทยเช่นกัน

นอกจากนี้ กรมประมง อยู่ระหว่างทำมาตรการจำกัดและมาตรการเยียวจาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของหมอสีคางคำ และอาจมีความเป็นไปได้ที่จะขยับราคาการรบซื้อปลาหมอสีคางดำในราคาที่แพงขึ้น จากเดิมกิโลกรัมละ 8 บาท เป็นราคากิโลกรัมละ 15 บาท

หากจะขายให้กับผู้ประกอบการเอาไปทำอาหารสัตว์ ขอให้อยู่ในราคาดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งจะเป็นแนวทางจูงใจในการล่าปลาชนิดนี้และไม่ขาดทุน

ขอบคุณภาพ NAKON45 อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ