วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เวลา 12:49 น.
“ดร. นลินี ทวีสิน เข้าเยี่ยมคารวะและพบหารือ นายกฯ บังกลาเทศ มุ่งขยายการค้า การลงทุน และส่งเสริมความสัมพันธ์ทุกมิติ นักธุรกิจบังกลาเทศให้เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่กับนักธุรกิจไทยกว่า 120 คู่"
วันนี้ (15 กรกฎาคม 2567) ดร. นลินี ทวีสิน เข้าเยี่ยมคารวะและพบหารือนายกรัฐมนตรีเชค ฮาซีนา (Sheikh Hasina) แห่งบังกลาเทศ หารือแนวทางขยายการค้า การลงทุน ไทย-บังกลาเทศ ในหลายสาขาศักยภาพ อาทิ อาหารแปรรูป ฮาลาล พลังงาน โลจิสติกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการเจรจา FTA ต่อด้วยการพบหารือนายซัลมาน ฟัซลุรเราะห์มาน (Salman Fazlur Rahman) ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีบังกลาเทศด้านอุตสาหกรรมและการลงทุน ย้ำนโยบายการสนับสนุนภาคเอกชนไทยเจาะตลาดต่างประเทศ ซึ่งบังกลาเทศเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ นักธุรกิจบังกลาเทศให้เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่กับนักธุรกิจไทยกว่า 120 คู่ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นและต่อยอดความร่วมมือการค้า-การลงทุนระหว่างกันได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ดร. นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยถึงภารกิจในวันที่สองของการนำคณะนักธุรกิจไทยเยือนบังกลาเทศ ระหว่างวันที่ 13-17 กรกฎาคม 2567 ว่าตนได้มีโอกาสหารือนายกรัฐมนตรีเชค
ฮาซีนา ในหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันความร่วมมือทางด้านเศษฐกิจ การค้า และการลงทุน โดยเฉพาะการเพิ่มมูลค้าการค้าระหว่างกันในสาขาต่าง ๆ เช่น อาหาร การท่องเที่ยว ฮาลาล การเชื่อมโยง โดยเฉพาะทางน้ำ ผ่านการเปิดเส้นทางเดินเรือระหว่างท่าเรือระนองกับท่าเรือจิตตะกอง รวมทั้งการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการผลักดันการเริ่มเจรจา FTA ไทย - บังกลาเทศให้เกิดขึ้นโดยเร็ว นอกจากนี้ ตนและคณะได้มีโอกาสพบหารือที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีบังกลาเทศด้านอุตสาหกรรมและการลงทุน โดยตนได้เน้นย้ำว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการสนับสนุนภาคเอกชนไทยในการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพ ผ่านความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตประเทศนั้น ๆ ในลักษณะ Team Thailand ซึ่งบังกลาเทศเป็นหนึ่งในตลาดที่ไทยเห็นถึงศักยภาพ ในขณะที่นายซัลมานแสดงความพร้อมและยินดีต้อนรับการลงทุนจากไทย โดยสินค้าและบริการของไทยเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวบังกลาเทศเป็นอย่างมาก อีกทั้งชาวบังกลาเทศยังนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศไทยอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้แทนการค้าไทย ได้กล่าวเปิดกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างภาคเอกชนทั้งสองฝ่าย โดยตนได้ใช้โอกาสนี้เน้นย้ำถึงความพร้อมของบริษัทไทยในการเข้าสู่ตลาดสำคัญอย่างเช่นตลาดบังกลาเทศ ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 35 ของโลก มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นบวกต่อเนื่องกว่า 4 ทศวรรษ เป็นตลาดขนาดใหญ่ด้วยประชากรราว 170 ล้านคน ประชากรวัยทำงานจำนวนกว่าร้อยละ 70 สามารถเป็นจุดเชื่อมต่อทางบกระหว่างเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะเดียวกัน ตนได้เชิญให้บริษัทบังกลาเทศพิจารณาไปลงทุนในไทยเพิ่มเติม โดยไทยมีความพร้อมในการเป็นประตูสู่อาเซียนของบังกลาเทศเช่นกัน
ดร. นลินี เผยเพิ่มเติมว่า บรรยากาศในการจัดงานจับคู่ธุรกิจนั้นเป็นไปอย่างคึกคัก ภาคเอกชนไทยได้รับความสนใจจากบริษัทชั้นนำของบังกลาเทศโดยภาคเอกชนไทยให้ความเห็นว่า การจัดกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจทำให้ได้มีโอกาสหารือและทำความรู้จักกับบริษัทภาคเอกชนสำคัญที่มีขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของบังกลาเทศหลากหลายบริษัท อีกทั้งยังทำให้เข้าใจถึงความต้องการของตลาดบังกลาเทศ และทำให้เห็นว่าสินค้าและบริการของไทยสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดบังกลาเทศได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจในบังกลาเทศ ต่อมาในช่วงเย็น หอการค้าบังกลาเทศ-ไทย ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา ได้จัด Business Networking Dinner โดยมีนายอะห์ซะนุล อิสลาม ติตู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์บังกลาเทศ เป็นแขกเกียรติยศ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Bangladesh Economic Zone Authority ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมบังกลาเทศ รวมถึงนักธุรกิจรายสำคัญของไทยและบังกลาเทศเข้าร่วมรวมประมาณ 100 คน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน