วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 18:42 น.
วันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2566) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในการเป็นประธานงานรณรงค์สาวไทยแก้มแดง ณ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และ Live สดผ่าน Facebook สำนักโภชนาการ ว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญต่อการพัฒนางานทางด้านสาธารณสุข ตามแนวพระราชดำริ และโครงการเฉลิมพระเกียรติ โดยร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อควบคุมและป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก และป้องกันทารกพิการแต่กำเนิดจากการขาดโฟเลตมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีนโยบายเสริมธาตุเหล็กให้กับประชาชนไทยในกลุ่มต่างๆ ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แก่ เด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี ให้ได้รับยาน้ำเสริมธาตุเหล็ก เด็กวัยเรียน อายุ 6 ถึง 12 ปี ให้ยาเม็ดเสริมธาตุเหล็ก หญิงวัยเจริญพันธุ์ ให้ยาเม็ดเสริมธาตุเหล็กและกรดโฟลิก รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอดบุตร 6 เดือน ให้ได้รับยาเม็ดเสริมไอโอดีน ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก
สำหรับการรณรงค์สาวไทยแก้มแดงครั้งนี้ แสดงถึงพลังการบูรณางานสาวไทยแก้มแดงตั้งแต่เริ่มต้น รวมทั้งสร้างแรงกระเพื่อมให้ประชาชนรู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะหญิงไทยซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงสิทธิการรับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค จากระบบหลักประกันสุขภาพมากขึ้น ประชาสัมพันธ์และขับเคลื่อนผ่านสถานประกอบการที่เห็นความสำคัญและสมัครใจเข้าร่วมโครงการ มากกว่า 120 แห่ง พร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี ส่งเสริมสุขภาพ ทุกกลุ่มวัยและอนามัยสิ่งแวดล้อม สร้างการเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีเป้าหมาย คือ หญิงวัยเจริญพันธุ์มีภาวะโภชนาการที่ดี ไม่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กและโฟเลต ร่างกายมีความพร้อมรองรับการตั้งครรภ์ในอนาคต” รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
ทางด้าน นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากข้อมูล Health Data Center กระทรวงสาธารณสุข ปี 2566 พบว่า หญิงตั้งครรภ์มีภาวะโลหิตจาง ร้อยละ 31.2 และหญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 15 ถึง 49 ปี ที่ได้รับการคัดกรองภาวะโลหิตจาง ในขณะที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ พบภาวะโลหิตจาง ร้อยละ 37.0 ซึ่งสมัชชาอนามัยโลก Global Nutrition Targets ได้กำหนดเป้าหมาย ลดอัตราภาวะโลหิตจางของหญิงวัยเจริญพันธุ์ลง เหลือร้อยละ 50 ภายในปี 2573 ดังนั้น ประเทศไทยจึงตั้งเป้าหมายลดหญิงวัยเจริญพันธุ์ที่มีภาวะโลหิตจาง ให้ไม่เกินร้อยละ 12.4 และจากข้อมูลดังกล่าว จึงต้องเร่งหามาตรการเพื่อป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กอย่างต่อเนื่อง ผ่านการสื่อสารและรณรงค์ “สาวไทยแก้มแดง” รวมทั้งเปิดตัว 77 สถานประกอบการทั่วไทย มุ่งสู่สถานประกอบการสาวไทยแก้มแดงต้นแบบ
นอกจากนี้ กรมอนามัยยังได้เร่งหารือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อปรับแนวทางการให้บริการและเพิ่มการเข้าถึงชุดสิทธิประโยชน์สำหรับหญิงวัยเจริญพันธุ์ ให้มีการจ่ายยาเม็ดเสริมธาตุเหล็กและกรดโฟลิกแก่หญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 13 ถึง 45 ปี ในรายการ Fee schedule เพื่อให้หญิงวัยเจริญพันธุ์มีสุขภาพดีมากขึ้น เพราะเป็นวัยที่มีประสิทธิภาพในการทำงานและมีโอกาสตั้งครรภ์คุณภาพสูง การมีสุขภาพร่างกายที่ดี ไม่ซีด ไม่ป่วยง่าย จึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งนอกจากยาเม็ดเสริมธาตุเหล็กและกรดโฟลิก กรมอนามัยยังส่งเสริมให้หญิงไทยกินผัก ผลไม้ และเลือกแหล่งอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อสัตว์ ตับ เลือด จะช่วยลดปัญหาภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก และลดความเสี่ยงของทารกพิการแต่กำเนิดซึ่งจะนำไปสู่การตั้งครรภ์อย่างมีคุณภาพ เป็นสาวไทยแก้มแดงของไทยต่อไป