รวบกรรมการบริหารโกดังพื้นที่ภาชี หนีคดีลักลอบเก็บสารเคมีมาทิ้งจนเกิดเหตุเพลิงไหม้

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) โดย พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พร้อม ​เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.2 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยโสธร ​ร่วมจับกุมผู้ต้องหา นายจตุวุฒิ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกัน มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินกิจการรับทำการเก็บ ขน หรือ กำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย โดยทำเป็นธุรกิจ หรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ปล่อยน้ำซึ่งทำให้เกิดเป็นพิษแก่น้ำตามธรรมชาติ หรือสารเคมีเป็นพิษลงในทางน้ำชลประทาน จนอาจทำให้ทางน้ำชลประทานเป็นอันตรายแก่เกษตรกรรม การบริโภค หรือสุขภาพอนามัย” จับกุม บ้านพักในพื้นที่ ม.7 ต.ดอนแก้ว อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 22.20 น. ของวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังในพื้นที่ ม.2 ต.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเก็บสารเคมีที่ลักลอบมาทิ้งไว้โดยอยู่ระหว่างรอทำลาย จำนวน 4,000 ตัน 5 โกดัง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาคือ นายจตุวุฒิฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นกรรมการบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากหลบหนีไม่มารับทราบข้อกล่าวหา และเชื่อว่าเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญที่รู้เห็นกับเหตุลักลอบทิ้งวัตถุอันตรายฯ ไว้ภายในโกดังดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่กับญาติที่ จ.ยโสธร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังลงพื้นที่วางแผนเข้าจับกุมและได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ จากการตรวจสอบยังพบว่า นายจตุวุฒิ ผู้ต้องหารายนี้ มีหมายจับติดตัวเป็นหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ต้องหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันครอบครองวัตถุอันตราย ชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต” ลงวันที่ 26 มกราคม 2567 และหมายจับศาลแขวงชลบุรี ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ต้องหากระทำความผิดฐาน “ยักยอกทรัพย์”

สอบสวนเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำวัตถุอันตรายฯ ไปเก็บไว้ในโกดังที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยาจริง โดยมีนายโอภาส ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา คอยสั่งการ ในส่วนของเหตุเพลิงไหม้ ตนไม่ทราบและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป