หน้าแรก > สังคม

ผู้ว่าฯ กทม. จับมือ สปสช. ยกระดับศูนย์บริการสาธารณสุข เดินหน้า 4 นโยบายเพื่อชาวกรุง

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 02:35 น.


ผู้ว่าฯ กทม. จับมือ สปสช. ยกระดับศูนย์บริการสาธารณสุข เดินหน้า 4 นโยบายเพื่อชาวกรุง  

(21 ก.พ. 66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมหารือร่วมกับคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติระดับเขตพื้นที่ (อปสข.) เขต 13 กรุงเทพมหานคร สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

การประชุมวันนี้ เป็นการขับเคลื่อนนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเชื่อมโยงแผนยุทธศาสตร์ อปสข. ที่เน้น 3 เรื่องหลัก คือ พัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ และงานสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ระบบบริการทุติยภูมิ-ตติยภูมิ และการเข้าถึงบริการของกลุ่มเปราะบาง โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้มีข้อเสนอต่อผู้ว่าฯ กทม. ในประเด็นสำคัญคือ การยกระดับให้ศูนย์บริการสาธารณสุขเป็นผู้จัดการพื้นที่ (Efficient Area Manager) ให้สามารถดูแลสุขภาพประชาชนกรุงเทพมหานครในพื้นที่รับผิดชอบอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มต้นจากประชากรเฉพาะกลุ่ม 4 กลุ่มก่อน ได้แก่

1) เด็กนักเรียนที่มีปัญหาทางสายตาให้ได้รับแว่นตาครบทุกโรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานคร เป้าหมาย 20,000 คน  

2) ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียง ได้รับการดูแล ( LTC: Long Term care) เป้าหมาย 20,000 คน

3) ผู้ป่วยระยะกลาง อาทิ  stroke, บาดเจ็บทางสมอง/ไขสันหลัง และข้อสะโพกหัก ได้รับการฟื้นฟูใกล้บ้านอย่างต่อเนื่อง (IMC: Intermediate care) เป้าหมาย 10,000 คน

4) ประชาชนต่างจังหวัดที่มาทำงานและอาศัยใน กทม. (ประชากรแฝง) จำนวน 700,000 คน  ย้ายสิทธิมาลงทะเบียนให้มีสถานพยาบาลประจำอยู่ในกทม. เพื่อให้ได้รับบริการสาธารณสุขที่สถานพยาบาลใกล้ที่พัก  

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ปัญหาหลักสำคัญของกทม.คือเรื่องความเหลื่อมล้ำ การจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้เรื่องสาธารณสุขกับการศึกษาเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องสาธารณสุข กทม.ต้องทำหน้าที่เป็นหน่วยปฐมภูมิหรืออย่างที่เรายึดมาตลอดคือเรื่องเส้นเลือดฝอย หน้าที่เราคือกระจายระบบสาธารณสุขลงเส้นเลือดฝอยให้มากที่สุด มีอุปกรณ์สำคัญคือ ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง ซึ่งเป็นด่านแรกที่จะปะทะ ดูแลป้องกันคือหน่วยปฐมภูมิ เพราะฉะนั้นกทม. ต้องทำหน้าที่เป็น Area Manager หรือผู้จัดการพื้นที่ในการดูแล กทม.เองไม่สามารถทำคนเดียวได้เพราะมีข้อจำกัดเรื่องสถานที่และบุคลากร ดังนั้นแนวคิดคือเราเป็นผู้จัดการบริหารทรัพยากรในพื้นที่ อาจมีคลินิกชุมชนอบอุ่น มีร้านยา มีหน่วยต่าง ๆ มีอสส. ที่อยู่ในพื้นที่ ทั้งหมดต้องเป็นเนื้อเดียวกัน โดยมีศูนย์บริการสาธรณสุขเป็นผู้จัดการพื้นที่ และมีการเชื่อมต่อสูงขึ้นไปคือโรงพยาบาลที่เป็นแม่ข่ายเชื่อมกลับมายังศูนย์บริการสาธารณสุข และเชื่อมไปสู่หน่วยย่อยลงมาเพื่อให้เกิดภาพที่สมบูรณ์ได้ เพราะฉะนั้น 4 ข้อที่กำหนดมาเป็นผลของการบริหารจัดการ ถ้าเราทำ 4 ข้อนี้ได้สำเร็จ แสดงว่าเราเป็น Area Manager ที่มีคุณภาพได้ สำหรับวันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี ความร่วมมือตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญในการจะแก้ปัญหาเรื่องความยากจน ความเหลื่อมล้ำในกรุงเทพมหานคร ถ้าเราดูแลสุขภาพให้ดี มีโรงเรียนที่ดี สุดท้ายแล้วประชาชนก็จะมีการพัฒนาตัวเอง มีความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น และอีก 6 เดือนจะกลับมาประชุมติดตามว่าผลลัพธ์ของโครงการมีความสำเร็จมากน้อยเพียงใด

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม