กทพ. จับมือ กฟน. ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบไฟฟ้า เทคโนโลยีพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงาน

วันนี้ ( 2 กรกฎาคม 2567)  การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ร่วมกับ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบไฟฟ้า เทคโนโลยีพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงาน โดยมี นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. และ นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ กฟน. ร่วมลงนาม

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวในรายละเอียดว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบไฟฟ้า เทคโนโลยีพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงาน ระหว่าง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และการไฟฟ้านครหลวง  เพื่อส่งเสริม สนับสนุน  การดำเนินงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบไฟฟ้าในอนาคตระบบการจัดการพลังงานเพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้าสำหรับอาคารศูนย์บริหารทางพิเศษ กทพ. อาคารศูนย์ควบคุมทางพิเศษ อาคารด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ ระบบไฟฟ้าส่องสว่างทางพิเศษ และเพื่อสนับสนุนการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีและการบริหารจัดการด้านพลังงานทดแทน เช่น การเปลี่ยน   โคมไฟชนิด LED ทดแทนโคมไฟแบบเดิม การเปลี่ยนและบำรุงรักษาระบบปรับอากาศเป็นชนิดประหยัดพลังงานการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ การติดตั้ง EV charger และอื่น ๆ อันจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มการใช้ประโยชน์   ในทรัพย์สินของทั้งสองหน่วยงาน โดยเบื้องต้นได้ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ทำให้ประหยัดค่าไฟ 3.7 ล้านบาทต่อปี ลดคาร์บอนไดออกไซต์ 412.87 ตันคาร์บอนต่อปี  หรือเทียบเท่าการปลูกต้นสัก 469,173 ต้ร  คิดเป็นพื้นที่ป่า 4,692 ไร่

นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ กฟน.(MEA ) เปิดเผยว่า ในฐานะที่ MEA เป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจำหน่ายกระแสไฟฟ้าด้วยระบบการใช้พลังงานทดแทน ในครั้งนี้จึงได้เกิดความร่วมมือในการส่งเสริม และสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนให้กับ กทพ. โดยดำเนินงานในด้านการสำรวจ ออกแบบ ติดตั้งระบบ และบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้าซึ่งเป็นส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด สนองตามนโยบายรัฐบาลที่ให้หน่วยงานราชการลดการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงลงร้อยละ 20 ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการใช้ไฟฟ้า ด้วยการใช้เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าที่สะอาด ลดภาวะโลกร้อน ลดภาระการใช้พลังงานไฟฟ้าของชาติ และสร้างความมั่นคงให้ระบบไฟฟ้าโดยรวม

“การลงนามบันทึกความเข้าใจในวันนี้ จะเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่าง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และการไฟฟ้านครหลวง ในการดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบไฟฟ้า เทคโนโลยีพลังงานทดแทน การอนุรักษ์พลังงาน และการบริหารจัดการด้านพลังงานด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพสูง เสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้งสองฝ่าย” นายสุรเชษฐ์ฯ กล่าวในท้ายที่สุด