เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 27 มิ.ย. 67 ที่ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี นายชัยกร ด้วงวงษ์ อายุ 49 ปี หรือ ก็อปปี้โชว์ อี๊ด วงฟลาย พร้อมด้วย นางรักตาภา วิริยะ อายุ 50 ปี หรืออ้อ เมืองสิงห์ ภรรยาซึ่งเป็นผู้จัดการก็อปปี้โชว์ และนายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สุพัฒน์ สระประโคน พนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย หลังถูกมิจฉาชีพแฮ็คเฟซบุ๊กนำไปหลอกขอยืมเงิน ลูก ภรรยา และเพื่อนในวงการ เกรงว่าจะเกิดความเสียหาย 
   

นายชัยกร ด้วงวงษ์ อายุ 49 ปี หรือ ก็อปปี้โชว์ อี๊ด วงฟลาย กล่าวว่า ตนซึ่งใช้บัญชีเฟสบุ๊กในชื่อ ดาด้า ก็อปปี้ ไวฟายโชว์ เป็นเฟสบุ๊คเพียงบัญชีเดียวที่ใช้รับงานติดต่อสื่อสารมานานนับ 10 ปี ถูกมิจฉาชีพรายหนึ่งมาหลอกขอรหัส OTP จากโทรศัพท์มือถือของตนแล้วไปแฮ็กเฟซบุ๊กตนจนสำเร็จ จากนั้นมิจฉาชีพรายนี้ได้ส่งข้อความทางเฟซบุ๊กไปขอยืมเงินลูกสาว ภรรยา และคนในแวดวงบันเทิง โดยล่าสุดนำชื่อเฟซบุ๊กตนไปแอบอ้างหลอกขายโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟนอีก ตนจึงเกรงว่าจะทำให้มีผู้เสียหายจากการหลงเชื่อ จึงได้ตัดสินใจปรึกษาทางกับนายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว จึงแนะนำให้ตนเองเดินทางมาเข้าแจ้งความกับมิจฉาชีพรายนี้และป้องกันความเสียหายด้านชื่อเสียงที่จะตามมา

โดยนายชัยกร หรือ ก็อปปี้โชว์ อี้ด วงฟลาย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 67 เวลา ช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ตนซึ่งใช้เฟซบุ๊กในชื่อว่า "ดาด้า ไวฟาย ก็อปปี้โชว์" มานานกว่า 10 ปี เพื่อพูดคุยและติดต่อรับงานแสดง ปรากฎว่าตนไม่สามารถเปิดเฟซบุ๊กเข้าไปใช้งานได้ตามปกติ ด้วยความสงสัยจึงได้เปิดเข้าไปดูในอีเมล์ส่วนตัวตนเอง เพื่อหาสาเหตุ จึงพบว่าข้อความแจ้งเตือนมาว่ามีบุคคลพยายามเข้าสู่ระบบเฟซบุ๊กของตน โดยบุคคลหรือมิจฉาชีพรายนี้ได้เข้าไปแก้ไขรหัสผ่านเฟซบุ๊กของตนใหม่ จากนั้นมิจฉาชีพรายนี้ได้นำเฟสบุ๊คของตนไปแอบอ้างตัวขอยืมเงินเพื่อนๆในเฟสบุ๊คของตน โดยให้โอนเงินเข้าบัญชธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 020424795100 ชื่อ น.ส.ธนพร ตะเปอ ซึ่งเป็นชื่อที่ตนไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย ต่อมาตนมานั่งทบทวนดูจึงจำได้ว่า มีเพื่อนในเฟซบุ๊กคนหนึ่งซึ่งเป็นถึงอาจารย์ ทักข้อความในเฟซบุ๊กตนว่า ขอเบอร์มือถือของตนหน่อย ตนก็ส่งให้ไปเพราะคิดว่าอาจารย์คงลืมเบอร์มือถือตน จากนั้นก็มีข้อความจากอาจารน์ทักมาอีกว่า ขอรหัส OTP ด้วย ตนจึงแคปภาพหน้าจอส่งรหัส OTP จากมือถือตนส่งให้ไป จึงทำให้ตนถูกแฮ็กเฟซบุ๊กในเวลาต่อมา

นายชัยกร หรือ อี้ด ตัวปลอม กล่าวอีกว่า หลังเฟซบุ๊กตนถูกแฮ็กไปได้ไม่นาน นายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ ได้โทรศัพท์มาหาตนพร้อมกับถามว่า ตนได้ติดต่อทางข้อความเฟสบุ๊กไปขอยืมเงินจากเขา จำนวน 6,100 บาท พร้อมกับจะให้ดอกเบี้ยอีก 400 บาท ใช่หรือไม่ ตนจึงได้ตอบปฎิเสธไปว่าตนไม่ได้ส่งข้อความไปยืมเงินจำนวนดังกล่าว เพราะเฟซบุ๊กตนถูกแฮ็ก ข้อความเรื่องยืมเงินน่าจะเป็นฝีมือของมิจฉาชีพที่แฮ็กเฟสบุ๊กตนไปอย่างแน่นอน จากนั้นทางนายห้างประจักษ์ชัยก็ส่งข้อความที่มิจฉาชีพส่งไปหาเขา กลับมาให้ตนเองดูทางไลน์ โดยนายห้างประจักษ์ชัยบอกกับตนว่า มันเป็นมุกเก่า ๆ ที่เจอมาบ่อยมาก จึงรู้ทันมิจฉาชีพแล้วโทรหาตนเลย

นอกจากนี้มิจฉาชีพรายนี้ยังได้นำเฟซบุ๊กตนส่งข้อความขอยืมเงินพร้อมให้ดอกเบี้ยไปหาเพื่อนในเฟซบุ๊กของตนอีกหลายราย ไม่เว้นแม้แต่ลูกกับภรรยาของตน ที่โดนทักข้อความไปขอยืมเงินด้วยเช่นกัน แต่ถูกลูกของตนจับโป๊ะได้เสียก่อนจากยี่ห้อโทรศัพท์ที่ขึ้นโชว์ในข้อความว่า ส่งมาจากมือถือยี่ห้ออะไร ซึ่งมิจฉาชีพใช้มือถือคนละยี่ห้อกับตน

นายชัยกร หรือ อี้ด ก็อปปี้โชว์ เปิดเผยอีกว่า หลังจากถูกมิจฉาชีพแฮ็กเฟซบุ๊กไปสร้างความเดือดร้อนให้แล้ว ตนได้พยายามกู้เฟซบุ๊กกลับคืนมาจนได้สำเร็จ จึงรีบแก้ไขเปลี่ยนแปลงรหัสเข้าใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ปรากฎว่ามิจฉาชีพรายนี้ยังไม่ยอมแพ้ ได้สร้างเฟซบุ๊กใหม่โดยใช้ชื่อเดียวกันกับตน ในชื่อ ดาด้า ไวฟาย ก็อปปี้โชว์ ทักทายไปหาเพื่อนกลุ่มต่าง ๆ ของตน ในเฟซบุ๊ก พร้อมกับอ้างตัวว่าเป็นตนเอง ส่งข้อความชวนพูดคุยและขอเบอร์โทรศัพท์มือถืออีก บางรายก็ถูกส่งข้อความไปยืมเงินพร้อมใช้ดอกเบี้ยภายใน 5 นาที โดยมิจฉาชีพรายนี้จะให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 1721159198 ในชื่อบัญชีของ น.ส.นาภรณ์ พงธ์อาภา ซึ่งไม่ใช่บัญชีของตน ตนเองไม่เคยรู้จักและไม่เคยทักข้อความไปขอยืมเงินใคร และที่หนักสุดมิจฉาชีพรายนี้นำชื่อเฟซบุ๊กตนไปแอบอ้างหลอกโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟนในราคาถูก 1.5 หมื่น - 2 หมื่นบาทอีก ทำให้ตนทนไม่ไหว ตัดสินใจปรึกษาทางกับนายอธิวัฒน์ เพจกล้าที่ก้าว ก่อนจะตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับมิจฉาชีพรายนี้ เพราะเกรงว่าจะมีคนหลงเชื่อแล้วตกเป็นผู้เสียหาย ทั้งจากการถูกหลอกยืมเงินและหลอกขายมือถือในราคาถูก เกรงว่าจะทำให้ตนได้รับความเสียหายในด้านชื่อเสียง และส่งผลกระทบกับงานแสดงก็อปปี้โชว์ที่ตนรับงานแสดงอยู่ จึงได้เดินทางมาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพรายนี้

นายชัยกร หรือ อี้ด ก็อปปี้โชว์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนอยากให้เรื่องราวของตนเป็นอุทาหรณ์ ให้อีกหลายๆ คน ที่ยังรู้ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมมิจฉาชีพว่า รหัส OTP หรือ รหัสประจำเครื่องนั้น อย่าส่งให้ใครเด็ดขาด และที่สำคัญอย่าหลงเชื่อใครก็ตามที่ทักเฟซบุ๊กมาขอยืมเงินพร้อมกับเสนอให้ดอกเบี้ยเป็นอันขาด หากรู้จักกันจริงให้โทรศัพท์พูดคุยติดต่อกันโดยตรงเลย เพราะเราไม่รู้หรอกว่า เฟซบุ๊กหรือข้อความนั้นจะถูกแฮ๊กมาหลอกลวงหรือเปล่า หรือนี่จะเป็นเวรกรรมที่ตนไปก็อปปี้โชว์เป็นคนอื่น จึงถูกมิจฉาชีพตามมาก็อปปี้เป็นตนอีกที