หน้าแรก > อาชญากรรม

ป.ป.ส. แถลงผลยึดทรัพย์นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ กว่า 2,000 ล้าน

วันที่ 20 มิถุนายน 2567 เวลา 13:25 น.


ป.ป.ส. ร่วมแถลงผลการ ยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญกว่า 2,000 ล้านบาท ณ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ป.ป.ส.

พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การแถลงผลการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินครั้งที่ 12/2567 ซึ่งมีท่านปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิ โดยมีเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นฝ่ายเลขานุการ ในวาระที่ 4 ที่ประชุมมีการพิจารณาคดีตรวจสอบทรัพย์สินจำนวน 81 คดี มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 2,185,071,784.93 บาท โดย 78 คดีเป็นการตรวจสอบทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งในขั้นตอนต่อไปจะส่งสำนวนคดีไปยังพนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลพิจารณาต่อไป

ในครั้งนี้ มี 3 คดี ซึ่งเป็นเครือข่ายรายสำคัญสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จับกุมนายธี(นามสมมุติ) พร้อมพวก 2 คน ของกลางยาเสพติด (เฮโรอีน) จำนวน 1, 000 แท่ง น้ำหนักประมาณ 35 กิโลกรัม ณ บริเวณด่านควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 บ้านนาหวายใหม่ อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน และนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านหลวง จังหวัดน่านดำเนินคดี และจากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวมีผู้ร่วมกระทำความผิดแบ่งหน้าที่กันทำ ดังนี้ 1.กลุ่มเจ้าของยาเสพติด 2. กลุ่มผู้ประสานงานระหว่างเจ้าของยาเสพติดและกลุ่มเครือข่าย 3.กลุ่มลำเลียงยาเสพติด 4.กลุ่มนายทุนและกลุ่มฟอก 5. กลุ่มกรรมการบริษัท/ผู้ถือหุ้น นำไปสู่การตรวจยึดอายัดทรัพย์สินของกลุ่มเครือข่ายดังกล่าว

จากการรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มเครือข่ายดังกล่าว จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด พบความผิดปกติของกลุ่มนายทุนและกลุ่มฟอกเงินที่มียอดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2564 พบมีมากกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับรายได้จากการประกอบอาชีพ หรือการประกอบธุรกิจในนามบริษัทของกลุ่มผู้ต้องหา ที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล เพื่ออำพรางว่ามีการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นการฟอกเงินที่ได้จากยาเสพติด อีกทั้งยังมีการนำเอาบัญชีของแรงงานชาวเมียนมา ลูกจ้างชาวเมียนมาของบริษัท มาใช้ทำธุรกรรมที่เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อพิจารณาจากพยานหลักฐานดังกล่าวแล้ว จึงเชื่อได้ว่า ทรัพย์สินของกลุ่มเครือข่ายเป็นทรัพย์สินที่มีอยู่หรือได้มาเกินกว่าฐานะ หรือความสามารถในการประกอบอาชีพอื่นใดโดยสุจริตและเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน มีคำวินิจฉัย และมีมติให้ยึดอายัดทรัพย์สินของกลุ่มเครือข่ายนี้ จำนวน 3 คดี

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวในตอนท้าย การดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินในกลุ่มเครือข่ายดังกล่าว เป็นการดำเนินการตาม พรบ.มาตราการฯ พ.ศ. 2534 และตามประมวลกฎหมายยาเสพติด กรณีถ้ามีผู้แจ้งเบาะแส จะได้รับเงินสินบน 5% ขณะที่คนที่ทำคดีตั้งแต่ต้นผู้จับกุมจนถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง จะได้ส่วนแบ่งเงินรางวัล 25% ซึ่งกฎหมายฉบับใหม่จะดำเนินคดีได้เร็วขึ้น จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเฝ้าป้องกันและเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด ด้วยการชี้เบาะแสเกี่ยวกับทรัพย์สินของกลุ่มเครือข่าย หรือนักค้ายาเสพติดมายัง สำนักงาน ป.ป.ส. ซึ่งหลังจากคดีสิ้นสุดทรัพย์สินตกเป็นของกองทุนฯ แล้ว ท่านจะได้รับเงินสินบนร้อยละ 5

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม