หน้าแรก > สังคม

"บิ๊กเต่า" เปิดไทม์ไลน์ เรือของกลาง 3 ลำ หายจากสัตหีบ คาดเรือถึงฝั่งค่ำนี้

วันที่ 17 มิถุนายน 2567 เวลา 17:31 น.


17 มิ.ย.67 พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงเบื้องต้นเมื่อช่วง 16 นาฬิกาที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ กับการดำเนินคดีกลุ่มผู้ต้องหาที่ทำเรือของกลางหายไปทั้ง 3 ลำ จากท่าเทียบเรือสัตหีบ แต่ส่วน นายโจ้ จะเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ทางตำรวจสอบสวนกลาง ได้มีการเร่งสอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้

ทั้งนี้ ไม่ปฏิเสธว่าเรื่องนี้จะมีตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องรอการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเสียก่อน แต่ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ เพราะตอนนี้ดำเนินการอย่างเต็มที่

ด้าน พลตำรวจตรี พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ เปิดเผยช่วงเวลาเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า นับตั้งแต่เรือถูกจับมา และยึดเป็นของกลาง กระทั่งหายไปและมีการตรวจพบเมื่อวานนี้ เริ่มจาก วันที่ 17 มี.ค. 2567 มีการจับน้ำมันเถื่อน ไว้ที่สัตหีบ จากนั้นวันที่ 19 มี.ค. บก.ปอศ. ทำหนังสือให้ดูแล ของกลางต่อ และวันที่ 11 มิ.ย. 2567 คนร้ายฉวยโอกาสเอาเรือของกลางไป โดยแล่นเรือไปถึงกัมพูชา ในวันที่ 12 มิ.ย.2567 จากนั้นเอาไปซ่อนและทำการเปลี่ยนสีและรูปพรรณสัณฐานของเรือ กระทั่งวันที่ 13 มิ.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ มีการประสานประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศ ทั้งกัมพูชา, เวียดนาม และมาเลเซีย เพื่อตรวจดูเรือต้องสงสัย

จนกระทั่งตำรวจเริ่มมีการกดดันในพื้นที่ ผู้ต้องหาจึงนำเรือออกจากท่าที่ประเทศกัมพูชา เข้าพื้นที่ EEZ เขตเศรษฐกิจจำเพาะมาเลเซีย เพราะผู้ต้องหาชำนาญเส้นทางนี้ และในวันที่ 16 มิ.ย.2567 รับแจ้งจากภาคีเครือข่าย พบเรือรูปพรรณตรงกัน ห่างจากชายฝั่งทะเลสงขลา 90 ไมล์ จึงใช้กำลังตำรวจน้ำ 3 ลำ ไปพิสูจน์ กระทั่งเวลา15.00 วันเดียวกัน ชัดเจนว่าใช่เรือของกลาง 3 ลำ

ส่วนเป้าประสงค์ของกลุ่มผู้ต้องหา ตำรวจเชื่อว่าหวังทั้งเรื่องของน้ำมันของกลางและเรือ เนื่องจากน้ำมันมีมูลค่า 3-4 ล้านบาท ส่วนเรือมีมูลค่ามากถึง 20 ล้าน

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม