วันที่ 16 มิถุนายน 2567 เวลา 12:36 น.
สืบนครบาล ได้ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวเก๋(นามสมมุติ) อายุ 25 ปี และนางสาวอัพ (นามสมมุติ)อายุ 28 ปี พร้อมของกลาง ดังนี้
1.ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่าย เอไอเอส ที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งานแล้ว รวมจำนวน 10 ซิม
2.ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่าย เอไอเอส ที่ยังไม่มีการลงทะเบียน จำนวน 490 ซิม
3.สมุดบัญชีธนาคารพร้อมบัตรเอทีเอ็ม และซิม
4.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ไอโฟน สีเขียว 1 เครื่อง
5.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ซัมซุง จำนวน 1 เครื่อง
โดยกล่าวหาว่า
- ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ และ
- ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขาย ให้เช่า ให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ (เป็นธุระจัดหา จำหน่าย ซิมม้า,บัญชีม้า) จับกุมได้ที่ บริเวณถนนสาธารณะ ซอยอรรถกระวี เขต คลองเตย กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วโดยบุคคลอื่นพร้อมใช้ และบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 จึงได้ให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อพูดคุยกันผ่านข้อความแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊ค โดยผู้ลักลอบจำหน่ายได้นัดหมายกันในวันที่ 15 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 22.00 น. โดยได้ตกลงต่อรองกันจนได้ตกลงซื้อขายซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่าย เอไอเอส ที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งานแล้ว จำนวน 500 ซิม ในราคา 55,000 บาท และ สมุดบัญชี พร้อมบัตรเอทีเอ็มและซิมซึ่งผูกบัญชี จำนวน 2 บัญชี ในราคา 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 75,000 บาท
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยจากการสอบถาม ทราบว่าทั้งคู่ได้เคยไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านผู้ต้องหาที่ 1 (เก๋) ไปอยู่มา 2 ปี แล้วหนีกลับมา ผันตัวมาขายซิมโทรศัพท์ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ( อัพ) ตามเก๋ไปภายหลังแต่อยู่ได้ไม่ถึงเดือนไม่โอเคจึงได้กลับมา จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ พร้อมของกลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป