วันที่ 15 มิถุนายน 2567 เวลา 23:59 น.
ทลายแหล่งรับจำนำรถรายใหญ่กลางเมืองเพชรบุรี ยึดรถของกลางกว่า 50 คัน พร้อมสัญญาเงินกู้กว่า 100 ฉบับ
(15 มิ.ย.67) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น ได้ร่วมกันตรวจค้น โกดังเก็บรถและบ้านพักของเครือข่ายรับจำนำรถ จำนวน 6 จุด
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. อาวุธปืนพกสั้น จำนวน 2 กระบอก
2. รถยนต์และรถจักรยานยนต์รวมกว่า 50 คัน
3. เอกสารเกี่ยวกับการรับจำนำรถกว่า 100 ฉบับ
สถานที่ตรวจค้น
1. บ้านพัก ม.5 ต.บ้านกุ่ม อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี
2. โกดังซึ่งตั้งอยู่ในที่ดินไม่ทราบเลขที่ ม.5 ต.ธงชัย อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี
3. บ้านพัก ม.6 ต.บ้านกุ่ม อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี
4. โกดังเก็บรถ ต.บ้านกุ่ม อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี
5. บ้านพัก ต.บ้านกุ่ม อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี
6. บ้านพัก ม.1 ต.โพไร่หวาน อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี
พฤติการณ์ กล่าวคือเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนเหตุการหายตัวไปของ เสี่ยหมาด หรือ นายขนบ เจ้าของสนามชนไก่ ในพื้นที่ จ.ชุมพร ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ารถยนต์ของเสี่ยหมาดที่ถูกลักเอาไปได้ถูกขายให้กับกลุ่มบุคคลที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายรับจำนำรถรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี จากนั้นจึงได้ทำการสืบสวนเรื่อยมา จนทราบว่าเครือข่ายรับจำนำรถดังกล่าวจะรับจำนำรถในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 และหากลูกหนี้รายใดขาดส่งดอกเบี้ยเกิน 3 เดือน ก็จะเอารถที่รับจำนำไว้ไปขายต่อ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นต่อศาล เพื่อเข้าค้นโกดังและสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเครือข่ายรับจำนำรถ และเพื่อตรวจสอบความผิดของเครือข่ายรับจำนำรถดังกล่าว
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรี ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นโกดังเก็บรถและบ้านพักของเครือข่ายรับจำนำรถกลางเมืองเพชรบุรี จำนวนกว่า 6 จุด ผลการตรวจค้นพบรถยนต์และรถจักรยานยนต์รวมกว่า 50 คัน พร้อมเอกสารเกี่ยวกับการรับจำนำรถกว่า 100 ฉบับ จึงได้ตรวจยึดเพื่อตรวจพิสูจน์และสืบสวนขยายผลต่อไป และจากการตรวจค้นยังพบอาวุธปืน พกสั้น จำนวน 2 กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่มีผู้นำมาจำนำไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งในส่วนของผู้กระทำความผิด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งดำเนินการติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว