วันที่ 8 มิถุนายน 2567 เวลา 22:53 น.
“สืบท่องเที่ยว” จับกุมบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกยืมเงินกว่า 500,000 บาท
ปัจจุบันมีพี่น้องประชาชนจํานวนมากที่ได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงทางโทรศัพท์หรือที่เรียกว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีรูปแบบในการหลอกลวงที่หลากหลายแตกต่างกัน โดยรูปแบบหนึ่งที่พบเห็นได้บ่อยคือการปลอมเสียงเป็นคนรู้จักโทรศัพท์หาผู้เสียหายเพื่อหลอกยืมเงิน จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อบุคคลที่ติดต่อมาทาง โทรศัพท์อ้างว่าเป็นคนรู้จักแต่โทรมาจากเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่รู้จัก เพราะอาจเป็นคนร้ายที่มาแอบอ้างหลอกยืมเงินได้
กองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยวภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือก ผบช.ทท., พ.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง, พล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.มล.สันธิกร วรวรรณ ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.ศราวุธ ตันกุล, พตอ.พัฒนา พัฒนชัย, พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ รอง ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.แมน รถทอง ผกก.2 บก.ทท.1, พตท.พิชญะ เขียวเปลื้อง, พต.ท.สมควร แต่งพรม รอง ผกก.2 บก.ทท.1 สั่งการให้ พ.ต.ต.กฤตพร แสงสุระ สว.กก.2 บก.ทท.1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.2 บก.ทท.1 ได้ทําการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 1 ราย คือ นายโมช (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนคร ลงวันที่ 28 มีนาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชี เงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง"
สืบเนื่องเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.66 ได้มีผู้เสียหายถูกคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ติดต่อเข้ามาทาง โทรศัพท์ ซึ่งภรรยาเป็นผู้รับสาย โทรเข้ามาอ้างว่าเป็นญาติชื่อนายมงคลฯ กําลังมาซื้อของ แต่เงินไม่พอ อยากขอยืมเงิน จํานวน 500,000 บาท ซึ่งขณะนั้นภรรยาของผู้เสียหายคิดว่าเป็นนายมงคลฯ ตัวจริงเพราะซึ่งเป็นญาติที่รู้จักดีและสนิทกัน มากจึงตกลงให้ยืมเงิน จากนั้นกลุ่มคนร้ายก็ได้ส่งบัญชีรับโอน ชื่อบัญชีผู้ต้องหา มาให้ภรรยาผู้เสียหาย โดยภรรยาเสียหายได้สอบถามว่าบัญชีธนาคารที่ส่งมาไม่ใช่ชื่อบัญชีของนายมงคลฯ แล้วเป็นบัญชีของผู้ใด ทางคนร้ายตอบว่า เป็นบัญชีของร้าน จึงได้หลงเชื่อ จากนั้นภรรยาผู้เสียหายก็ได้โอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหาย เข้าบัญชีชื่อ นายโมช (คนร้าย) เป็นเงินจํานวน 500,000 บาท ต่อมาก็รู้สึกเอะใจและสงสัย จึงได้ติดต่อกลับไปยังนายมงคลฯ ซึ่งเป็นญาติกัน โดยนายมงคลฯ แจ้งว่า ไม่ได้ติดต่อมาขอยืมเงินจํานวนดังกล่าว และไม่ได้ไปซื้อของตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
ผู้เสียหายเชื่อว่าน่าจะถูกกลุ่มคนร้าย หลอกโอนเงินแน่นอนแล้วจึงได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร แจ้งความร้องทุกข์เพื่อ ดําเนินคดีดังกล่าว ต่อมาพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดสกลนคร ลงวันที่ 28 มี.ค.67 ซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, เปิดหรือยินยอมให้ บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่ตน เกี่ยวข้อง” โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.2 บก.ทท.1 ติดตามสืบสวนจนทราบว่านายโมช (นามสมมุติ) ได้หลบหนีมาพัก อาศัยที่บ้านหลังหนึ่งย่านลาดกระบัง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ติดตามจนพบตัวผู้ต้องหา จึงเข้าจับกุมพร้อมนําตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป